ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยในวันเสาร์(17พ.ค.) จะพูดคุยกับประธานาธิบดีของทั้งรัสเซียและยูเครนในวันจันทร์(18พ.ค.) ตามหลังการเจรจาโดยตรงระหว่าง 2 ฝ่าย ในตุรกี เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ ที่ทางฝ่ายเคียฟบอกว่าคณะผู้แทนมอสโกตั้งแง่ ยื่นข้อเรียกร้องใหม่ แล้วการหยุดยิงถึงจะสามารถตกลงกันได้
ในมอสโก ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน เปิดเผยกับสำนักข่าวรัสเซีย ว่ากำลังอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมสำหรับการพูดคุยกันระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับ ทรัมป์
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นตามหลังการเจรจาในวันศุกร์(16พ.ค.) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 ฝ่าย ทำการเจรจากันแบบเจอหน้า นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ไม่กี่สัปดาห์หลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนรายหนึ่งที่ใกล้ชิดกับการเจรจา ระบุว่าคณะผู้แทนของรัสเซียเรียกร้องให้เคียฟถอนทหารทั้งหมดออกจากแคว้นต่างๆของยูเครนที่กล่าวอ้างโดยมอสโก ก่อนที่พวกเขาจะยอมตกลงใดๆ
ทรัมป์ เขียนบนทรัสต์โซเชียล ว่าเขาจะพูดคุยกับ ปูติน เพื่อหารือเกี่ยวกับการหยุดสงคราม ตอน 10.00น. ของวันจันทร์(19พ.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น(ตรงกับเมืองไทย 21.00น) "หัวข้อต่างๆของการพูดคุยทางโทรศัพท์ จะเป็นการหยุดนองเลือดที่เข่นฆ่าผู้คน โดยเฉลี่ยปลิดชีพทหารรัสเซียและยูเครนมากกว่า 500 นายในแต่ละสัปดาห์ และรวมถึงการค้า"
ประธานาธิบดีสหรัฐฯบอกต่อว่าหลังจากนั้นเขาจะพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนและสมาชิกนาโตหลายชาติ "หวังว่ามันจะเป็นวันที่ออกดอกออกผล ข้อตกลงหยุดยิงหนึ่งๆจะเกิดขึ้น และสงครามที่รุนแรงมากๆนี้ ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย จะหยุดลง"
ผู้นำอเมริกาเสนอตัวเดินทางไปตุรกี เเพื่อร่วมเจรจา ระหว่างเดินทางเยือนแถวอ่าวอาหรับเมื่อสัปาดห์ที่แล้ว ถ้า ปูติน เข้าร่วม แต่ท้ายที่สุดแล้ว ปูติน ส่งคณะเจรจาเข้าร่วมแทน
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์พยายามกดดันทั้ง ปูติน และ เซเลนสกี ให้ตกลงหยุดยิง ในสงครามที่ยืดเยื้อมากว่า 3 ปี
วังเครมลินปฏิเสธแสดงความเห็นเกี่ยวกับเงื่อนไขที่รัสเซียยื่นไประหว่างการเจรจาในวันศุกร์(16พ.ค.) ทั้งนี้โต๊ะเจรจาดังกล่าวใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 40 นาที และบรรลุกันเพียงแค่ข้อตกลงแลกเปลี่ยนเชลยศึกสงคราม 1,000 คนของแต่ละฝาย ทว่าทั้ง 2 ชาติ ไม่ได้เจาะจงว่าการแลกเปลี่ยนนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
เซเลนสกี ในวันเสาร์(17พ.ค.) เรียกร้องคว่ำบาตรมอสโกหนักหน่วงขึ้น หลังจากโดรนรัสเซียลำหนึ่งปลิดชีพผู้โดยสารรถบัส 9 คนในแคว้นซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน "มันเป็นการจงใจสังหารพลเรือน" เขากล่าว "ต้องมีการออกแรงกดดันให้รัสเซียหยุดเข่นฆ่า ปราศจากการคว่ำบาตรหนักหน่วงกว่าเดิม ปราศจากแรงกดดันหนักหน่วงขึ้น รัสเซียจะไม่เสาะแสวงหาการทูตอย่างแท้จริง"
รัสเซีย ซึ่งยืนยันมาตลอดไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานพลเรือน บอกว่าพวกเขาโจมตีเป้าหมายทางทหารแห่งหนึ่งในซูมี ในขณะที่กระทรวงกลาโหมแดนหมีขาวเปิดเผยด้วยว่ากำลังพลของพวกเขาสามารถยึดถิ่นฐานได้อีกแห่งทางตะวันออกของยูเครน
เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย พูดคุยทางโทรศัพท์กับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และบอกว่าเขายินดีกับ "บทบาทในทางบวก" ของอเมริกา ในการช่วยฟื้นฟูการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน พร้อมระบุการติดต่อระหว่าง 2 ชาติ จะเดินหน้าต่อไป
รูบิโอ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอส ว่า ลาฟรอฟ บอกกับเขาว่า "รัสเซียกำลังทำงานในแนวคิดและความต้องการต่างๆที่พวกเขามี เพื่อเดินหน้าไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงและการเจรจาเพิ่มเติม"
ยูเครนและบรรดารัฐบาลชาติตะวันตก ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ เรียกร้องให้ รัสเซีย หยุดยิงในทันที โดยปราศจากเงื่อนไข เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน แต่แหล่งข่าวเคียฟอ้างว่าคณะผู้แทนเจรจาของมอสโกเรียกร้องให้ยูเครนถอนทหารออกจากแคว้นโดเนตสก์, แคว้นซาโปริซเซีย, แคว้นเคียร์ซอนและลูฮันสก์ และข้อตกลงหยุดยิงจะเกิดขึ้นได้หลังจากนั้น
นอกจากนี้แล้วแหล่งข่าวยังเผยด้วยว่ารัสเซียยังนำเสนอข้อเรียกร้องอื่นๆที่เกินเลยเงื่อนไขต่างๆในร่างข้อตกลงสันติภาพหนึ่ง ที่ทางสหรัฐฯนำเสนอเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากได้พูดคุยกับทางรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของยูเครน โดยบอกว่าการเจรจาควรดำเนินไปอย่างลับๆอย่างแท้จริง
(ที่มา:รอยเตอร์)