ราคาน้ำมันขยับลงในวันพุธ(14พ.ค.) จากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองสำรองของสหรัฐฯ ที่ก่อความกังวลอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน จับตาข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ๆ ในขณะที่ทองคำปรับลดแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 63.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 54 เซนต์ ปิดที่ 66.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ(14พ.ค.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล เป็น 441.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์อ่อนแอ
อย่างไรก็ตามตลาดน้ำมันขยับลงไม่มากนัก เนื่องจากข้อมูลเดียวกันพบว่าคลังเบนซินและน้ำมันกลั่นสำรองต่างลดลง ก่อนเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลขับขี่
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันพุธ(14พ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ หลังจากเริ่มต้นสัปดาห์อย่างแข็งแกร่ง จากแรงหนุนของเงินเฟ้ออ่อนตัวและข้อตกลงระงับรีดภาษีระหว่างจีนกับอเมริกา
ดาวโจนส์ ลดลง 89.37 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 42,051.06 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.03 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,892.58 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 136.72 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,146.81 จุด
นักลงทุนกำลังเฝ้ารอพัฒนาการด้านการค้าเพิ่มเติม ในระหว่างที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางทัวร์ประเทศต่างๆในแถบอาหรับ และได้คำรับประกันการลงทุนกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ ทั้งนี้บรรดาหุ้นบริษัทเทคโนโลยีสัญาชาติอเมริกาต่างดีดตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลแถลงข้อตกลงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ในตะวันออกกลางในวันอังคาร(13พ.ค.)
ฟิลิป เจฟเฟอร์สัน รองประธานกลางสหรัฐฯ ระบุในวันพุธ(14พ.ค.) ว่าในขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อเมื่อเร็วๆนี้บ่งว่าว่ากำลังอ่อนตัวมุ่งสู่ระดับเป้าหมาย 2% แต่แนวโน้มเวลานี้ยังไม่แนอน ส่วนทาง ออสติน กูลส์บี ผู้ว่าการเฟดสาขาชิคาโก ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงเกี่ยวกับผลกระทบของศึกรีดภาษี
ในส่วนของราคาทองคำปรับลดในวันพุธ(14พ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน มุมมองในแง่บวกของการค้า กระตุ้นให้นักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 59.50 ดอลลาร์ หรือ 1.80 % ปิดที่ 3,188.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)