xs
xsm
sm
md
lg

ผลประโยชน์ทับซ้อน?!? ทรัมป์โอ่ทริปเยือนตะวันออกกลางของเขาโกยเงินทุนเข้าสหรัฐฯ แต่เวลาเดียวกันบริษัทรัมป์ออร์แกไนเซชัน ก็เร่งขยายดีลธุรกิจในภูมิภาคนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จับมือกับ มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดีอาระเบีย หลังจากการแลกเปลี่ยนเอกสารกัน ระหว่างพิธีลงนามซึ่งจัดขึ้นที่พระราชวังหลวงในกรุงริยาด, ซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอังคาร (13 พ.ค.)
ไม่ใช่แค่ท่าทีต่อเครื่องบินหรูราคา 400 ล้านดอลลาร์ที่กาตาร์เสนอให้และทรัมป์บอกว่า ตนเองไม่โง่พอที่จะตอบปฏิเสธ


หรือการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้เลือกซาอุดีอาระเบียเป็นจุดหมายปลายทางแรกในการเดินทางเยือนต่างประเทศทริปแรกนับจากเข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากริยาดพร้อมลงทุนมโหฬารในบริษัทอเมริกัน

รวมทั้งไม่ใช่แค่การที่ตระกูลทรัมป์ขยายความสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างรวดเร็วในตะวันออกกลางที่นำเสนอแนวโน้มในการทำกำไรมหาศาล

แต่เป็นสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดรวมกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดระหว่างครอบครัวที่ผู้เป็นหัวหน้ามีตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับภูมิภาคที่เหล่าผู้นำชื่นชอบการประจบประแจงด้วยเงินหรือของกำนัลล้ำค่า จนกระทั่งมันอาจเป็นเหตุทำให้สหรัฐฯแสดงการปฏิบัติอย่างดีเป็นพิเศษต่อพวกผู้นำในตะวันออกกลาง เมื่อมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับกิจการแห่งรัฐของสหรัฐอเมริกา

เอพีรายงานว่า ก่อนที่ทรัมป์จะเริ่มการเยือนซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในสัปดาห์นี้ ลูกชาย 2 คนของเขาคือ อิริก และโดนัลด์ จูเนียร์ บินไปตะวันออกกลางเป็นว่าเล่นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ และหารายได้เข้าทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน บริษัทโฮลดิ้งคอมพานีที่ดูแลธุรกิจและการลงทุนแทบทั้งหมดของทรัมป์ ซึ่งทั้งคู่กำลังเข้าบริหารงานแทน ขณะที่ตัวทรัมป์เองปฏิบัติหน้าที่อยู่ในทำเนียบขาว

ระหว่างการเดินทางดังกล่าว มีทั้งการที่อิริก ทรัมป์ ประกาศแผนสร้างทรัมป์ ทาวเวอร์ 80 ชั้นในดูไบ นครใหญ่ที่สุดของยูเออี เขายังเข้าร่วมงานประชุมว่าด้วยเงินคริปโต ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองนั้น พร้อมๆ กับ แซค วิตคอฟฟ์ ผู้ก่อตั้งเวิลด์ ลิเบอร์ตี ไฟแนนเชียล บริษัทคริปโตของครอบครัวทรัมป์ และก็เป็นบุตรชายของ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ซึ่งเป็นผู้แทนทางการทูตซึ่งคอยทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ทรัมป์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง

การที่ทรัมป์เยือนตะวันออกกลาง ขณะที่ลูกๆ ง่วนกับการค้นหาโอกาสในการทำเงินในภูมิภาคเดียวกัน ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของทรัมป์ในการทำหน้าที่ผลักดันข้อตกลงต่างๆ ในฐานะประธานาธิบดี แม้กระทั่งเมื่อเผชิญกับความวิตกห่วงใยที่ว่า ในการดำเนินการดังกล่าว เขาอาจถูกยั่วยวนให้กำหนดนโยบายต่างประเทศที่เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของครอบครัวก็ตาม

ผลประโยชน์ทับซ้อนชัดเจนที่สุด

ผลประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัวทรัมป์ในตะวันออกกลาง มีทั้งดีลใหม่ในการสร้างกอล์ฟรีสอร์ตหรูในกาตาร์ โดยร่วมมือกับ กาตาริ ดิอาร์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งรัฐของกาตาร์ นอกจากนั้นครอบครัวทรัมป์ยังปล่อยเช่าแบรนด์ของพวกเขาให้แก่โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ 2 โครงการในกรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย โดยร่วมงานเป็นหุ้นส่วนกับ ดาร์ โกลบัล บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูหราที่ตั้งฐานอยู่ในลอนดอน และเป็นกิจการในเครือของ อัล อาร์คาน กิจการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนในซาอุดีอาระเบีย

ทรัมป์ ออร์แกไนเซชันยังร่วมมือลักษณะคล้ายๆ กันนี้กับ ดาร์ โกลบัล ในโปรเจ็กต์ทรัมป์ ทาวเวอร์ ในเมืองเจดดา ของซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งโครงการทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล โฮเต็ล และสนามกอล์ฟหรู ที่กำลังจะเปิดตัวในโอมาน ชาติเพื่อนบ้านรายเล็กๆ ของซาอุดีอาระเบีย

ขณะเดียวกัน ระหว่างการประชุมคริปโต บริษัทการลงทุนในอาบูดาบีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลดูไบ ประกาศเลือก USD ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ออกโดยเวิลด์ ลิเบอร์ตี ไฟแนนเชียล เพื่อสนับสนุนการลงทุนมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ในไบแนนซ์ แพลตฟอร์มเทรดคริปโตใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้มีเสียงครหาว่า ดีลนี้เปิดทางให้ครอบครัวทรัมป์รับผลประโยชน์จากทุกดอลลาร์ที่ลงทุนในโปรเจ็กต์นี้

นอกจากนั้นยังมีแอลไอวี กอล์ฟ ที่สานสัมพันธ์ธุรกิจแนบแน่นกับทรัมป์ และเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟในดอรัลรีสอร์ตของทรัมป์ที่ทางใต้ของรัฐฟลอริดา

จอน ฮอฟฟ์แมน นักวิชาการด้านนโยบายกลาโหมและต่างประเทศของสถาบันคาโต ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองแนวทางเสรีนิยม วิจารณ์ว่า ความเชื่อมโยงระหว่างแอลไอวี กอล์ฟ กับกองทุนการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย หรือระหว่างธุรกิจของครอบครัวทรัมป์กับตะวันออกกลาง สะท้อนผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างชัดเจน

ทำเนียบขาวปัดพัลวัน

แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ออกมาแถลงยืนยันว่า ทรัมป์ปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านผลประโยชน์ทับซ้อน หลังถูกถามว่า ผู้นำสหรัฐฯ ใช้ทริปตะวันออกกลางเพื่อพบกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของครอบครัวหรือไม่

เจ้าหน้าที่คณะบริหารคนอื่นๆ ปฏิเสธเช่นเดียวกัน โดยตั้งข้อสังเกตว่า ทรัพย์สินของทรัมป์อยู่ในทรัสต์ที่ลูกๆ เป็นคนจัดการ นอกจากนั้นข้อตกลงจริยธรรมโดยสมัครใจที่ทรัมป์ ออร์แกไนเซชันนำออกเผยแพร่ยังห้ามบริษัททำข้อตกลงกับรัฐบาลต่างประเทศโดยตรง อย่างไรก็ดี ข้อตกลงนี้อนุญาตให้ทำข้อตกลงกับบริษัทเอกชนต่างชาติได้ ซึ่งต่างจากข้อตกลงจริยธรรมในสมัยทรัมป์ 1.0 ที่ห้ามติดต่อทำข้อตกลงทั้งกับภาครัฐหรือบริษัทเอกชนต่างชาติ

ตามข้อตกลงจริยธรรมในสมัยที่สองของทรัมป์ ตัวทรัมป์เองจะไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการดำเนินงานในแต่ละวันของธุรกิจของครอบครัว กระนั้น ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สถานะทางการเมืองของทรัมป์และแบรนด์ในเชิงธุรกิจเชื่อมโยงกันแบบแยกไม่ออก

ทิโมธี พี. คาร์นีย์ นักวิชาการอาวุโสของอเมริกัน เอนเตอร์ไพร์ อินสติติวท์ ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองสายอนุรักษนิยม ชี้ว่า แม้ไม่ได้บริหารบริษัททรัมป์ ออแกไนเซชัน โดยตรง แต่ทรัมป์ยังคงได้กำไรจากธุรกิจของครอบครัว และมีแนวโน้มว่า เมื่อพ้นตำแหน่ง บริษัทของครอบครัวจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับสินทรัพย์ส่วนตัวของทรัมป์

ทริปดึงดูดเงินลงทุน

เมื่อกันเรื่องธุรกิจครอบครัวของเขาออกมาไว้ข้างๆ ทรัมป์ก็กล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่า กำหนดแผนการเดินทางทริปนี้ขึ้นมา โดยอิงกับผลประโยชน์ตอบแทนที่สหรัฐฯจะได้รับ

จุดหมายปลายทางแรกคือซาอุดีอาระเบีย ทรัมป์เลือกที่นี่หลังจากริยาดประกาศลงทุนในบริษัทอเมริกัน 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 4 ปี ทว่า นับจากนั้นทำเนียบขาวแก้ไขตัวเลขเป็น 600,000 ล้านดอลลาร์ และต้องรอดูกันต่อไปว่า การลงทุนจริงจะมีมูลค่าเท่าใด

ทรัมป์ยังแวะที่ยูเออีที่ให้คำมั่นลงทุน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในอเมริกาภายใน 10 ปี และกาตาร์ที่ทรัมป์บอกว่า เขาไม่ต้องเปลืองสมองคิดแต่อย่างใดเลย ในการยอมรับเครื่องโบอิ้ง 747 ลำหรูหราแบบฟรีๆ จากตระกูลผู้ปกครองประเทศนี้ เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งของเขา แม้ว่า เดโมแครตและสมาชิกรีพับลิกันบางคนแสดงความกังวลถึงผลกระทบต่อเรื่องความมั่นคงและจริยธรรมก็ตามที

(ที่มา: เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น