xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์โอ่หารือวันแรกคืบหน้ามาก เผยรีเซ็ตความสัมพันธ์อเมริกา-จีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - ทรัมป์คุย “รีเซ็ต” ความสัมพันธ์ทางการค้าอเมริกา-จีนใหม่หมด ก่อนตัวแทนทั้งสองฝ่ายหารือกันเป็นวันที่ 2 ในวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) เพื่อผ่านคลายความขัดแย้งจากภาษีศุลกากรสุดโหดของผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า จะจบลงโดยปราศจากผลลัพธ์รูปธรรมที่ชัดเจนหรือการตกลงลดภาษีศุลกากร

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียล เมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า การหารือเป็นไปด้วยดีมากและดูเหมือนเป็นการรีเซ็ตความสัมพันธ์ใหม่หมดด้วยวิธีที่เป็นมิตรและสร้างสรรค์ โดยอเมริกาหวังบรรลุผลลัพธ์ที่ดีต่อทั้งสองประเทศ และหวังให้จีนเปิดตลาดรับธุรกิจอเมริกันมากขึ้น ก่อนปิดท้ายว่า “คืบหน้าอย่างมาก” แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่า คืบหน้าอย่างไร

การประชุมแบบปิดวันที่สองระหว่างสก็อตต์ เบสเซนต์ และเจมิสัน กรีเออร์ รัฐมนตรีคลังและผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ตามลำดับ กับรองนายกรัฐมนตรีเหอ หลี่เฟิงของจีน มีกำหนดเริ่มต้นในช่วงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นของเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์

นาธาน ชีตส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกของซิตี้กรุ๊ป ชี้ว่า การหารือดังกล่าวสะท้อนสถานะความสัมพันธ์ทางการค้าปัจจุบันที่ภาษีศุลกากรสูงลิบไม่ได้สะท้อนผลประโยชน์ทั้งสำหรับอเมริกาและจีน

การเจรจานี้นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกพบกันแบบตัวต่อตัวเพื่อแก้ไขประเด็นขัดแย้งทางการค้า นับจากที่ทรัมป์สั่งรีดภาษีจีนครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่แล้วอันนำไปสู่การตอบโต้รุนแรงจากปักกิ่ง

ก่อนการประชุมวันแรกที่จัดขึ้นที่ที่พักเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำสหประชาชาติในเจนีวา ทั้งสองฝ่ายต่างพยายามลดทอนความคาดหวัง โดยเบสเซนต์ออกตัวว่า การหารือจะโฟกัสที่การผ่อนคลายความขัดแย้ง ไม่ใช่การบรรลุข้อตกลงสำคัญ ขณะที่ปักกิ่งยืนกรานให้วอชิงตันลดภาษีศุลกากรก่อน

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนเผยแพร่บทความแสดงความคิดเห็นโดยระบุว่า การหารือที่เจนีวาเป็นขั้นตอนสำคัญในการส่งเสริมการแก้ปัญหา

แกรี่ ฮัฟบาวเออร์ นักวิชาการอาวุโสของสถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ มองว่า การประชุมระหว่างจีนกับอเมริกาถือเป็นข่าวดีสำหรับธุรกิจและตลาดการเงิน กระนั้น เขายังสงสัยว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าของสองประเทศจะกลับสู่ภาวะปกติได้หรือไม่ หากภาษีศุลกากรยังคงอยู่ที่ 70-80% ซึ่งจะทำให้มูลค่าการค้าระหว่างกันลดลงถึงครึ่งหนึ่ง

เมื่อวันศุกร์ (9 พ.ค.) จีนเปิดเผยว่า การส่งออกเดือนเมษายนพุ่งขึ้นแม้สงครามการค้าปะทุหนัก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เป็นผลจากการเปลี่ยนเส้นทางการค้าไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษีศุลกากรของอเมริกา

ฮัฟบาวเออร์สำทับว่า เจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของทรัมป์ที่มีแนวทางสายกลางมากกว่า อย่างเช่น เบสเซนต์ และโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ ตระหนักว่า จีนเตรียมพร้อมดีกว่าอเมริกาในการรับมือสงครามการค้า

การหารือที่เจนีวาเกิดขึ้นหลังจากทรัมป์ประกาศว่า อเมริกาบรรลุข้อตกลงการค้ากับอังกฤษ ซึ่งเป็นข้อตกลงฉบับแรกนับจากที่ประมุขทำเนียบขาวออกมาตรการภาษีศุลกากรสำหรับประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก

ข้อตกลงความยาว 5 หน้าที่ไม่ถือเป็นสัญญาผูกมัดตอกย้ำว่า อเมริกายินดีเจรจาเพื่อผ่อนคลายมาตรการภาษีเฉพาะอุตสาหกรรม แต่ยังคงภาษีศุลกากรพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้าส่วนใหญ่ของอังกฤษ

ภายหลังการประกาศข้อตกลงดังกล่าว นักวิเคราะห์ต่างมองแง่ลบเกี่ยวกับโอกาสที่ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างอเมริกากับจีนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนภายหลังการหารือที่เจนีวา โดยบางคนเชื่อว่า ผลการหารือจะค่อนข้างจำกัด ขณะที่บางคนคิดว่า จะมีการออกข่าวว่า การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และราบรื่น แต่ไม่มีการประกาศลดภาษีศุลกากรใดๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น