ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี(8พ.ค.) กดดันให้รัสเซียยอมรับข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไขเป็นเวลา 30 วันกับยูเครน พร้อมขู่ว่าการละเมิดใดๆจะถูกลงโทษด้วยการคว่ำบาตร ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นในขณะที่รัฐสภายูเครนให้การรับรองข้อตกลงแร่ที่ทำไว้กับอเมริกา
ทรัมป์ รื้อฟื้นความพยายามสงบศึก หลังพูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ผู้ซึ่งเคลื่อนไหวปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับรัฐบาลสหรัฐฯ ตามหลังเหตุกระทบกระทั่งในทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์
"การเจรจากับรัสเซีย/ยูเครนยังคงเดินหน้าต่อไป สหรัฐฯเรียกร้องโดยหลักการ สำหรับการหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไขเป็นเวลา 30 วัน" ทรัมป์ระบุบนทรัสต์ โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขา หลังจากพูดคุยกับเซเลนสกี "ถ้าข้อตกลงหยุดยิงไม่ได้รับความเคารพ สหรัฐฯและบรรดาชาติคู่หูจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม"
ทรัมป์ ระบุว่า "ทั้ง 2 ประเทศต้องรับผิดชอบ ให้ความเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของการเจรจาโดยตรงนี้" เพื่อหยุดความขัดแย้งที่เริ่มต้นขึ้นจากการที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในปี 2022
เซเลนสกี รุดกดดันให้ รัสเซีย ตอบรับข้อเสนอหยุดยิงเช่นกัน โดยบอกว่ามอสโกจำเป็นต้องพิสูจน์ถึงความตั้งใจจริงที่จะยุติสงคราม "ยูเครนพร้อมสำหรับการหยุดยิงโดยสมบูรณ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นับตั้งแต่นาทีนี้ ความเงียบเชียบ 30 วัน แต่มันต้องเป็นข้อตกลงหยุดยิงที่แท้จริง ไม่มีการโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือโดรน ไม่มีการจู่โจมนับร้อยในแนวหน้า" ผู้นำยูเครนเขียนบนสื่อสังคมออนไลน์
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม ยูเครนอ้าแขนรับข้อเสนอของสหรัฐฯ สำหรับหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน แต่มันถูกเพิกเฉยโดยฝั่งรัสเซีย ซึ่งมองว่าตนเองกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบในสนามรบ ในขณะที่สหรัฐฯภายใต้การนำของทรัมป์ ลดระดับความช่วยเหลือที่ป้อนแก่เคียฟ
ในส่วนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ออกคำสั่งหยุดยิงเป็นเวลา 3 วัน ในวาระครบรอบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันพฤหัสบดี(8พ.ค.) โดย ณ โอกาสนี้ มอสโกได้จัดพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ และได้เชิญประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ร่วมพิธีด้วย
ยูเครน ปฏิเสธการหยุดยิงของรัสเซีย โดยชี้ว่ามันเป็นเพียงแค่การเล่นละคร และบอกว่ามอสโกละเมิดคำสั่งของปูตินเอง ตั้งแต่ชั่วโมงแรกๆที่มีผลบังคับใช้แล้ว
ทรัมป์ ประกาศยุติสงครามภายใน 1 วัน หลังคืนสู่ทำเนียบขาว เขาติดต่อทาบทามไปยังปูตินอย่างรวดเร็ว ผลก็คือเป็นการยุติมาตรการโดดเดี่ยวที่ตะวันตกกำหนดเล่นงานผู้นำรัสเซียรายนี้ นับตั้งแต่เขาสั่งกองทัพรุกรานยูเครน
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ เริ่มหมดความอดทน โดยตอนแรกกับเซเลนสกี และเร็วๆนี้เขาชักมีโมโหกับปูตินเช่นกัน หลังจากทั้ง 2 ฝ่ายยังคงเดินหน้าสู้รบโดยไม่มีท่าทีจะหยุดลง
ประธานาธิบดีทรัมป์ ในวันพฤหัสบดี(8พ.ค.) เน้นย้ำเสียงเรียกร้องสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างรัสเซียกับยูเครน และยืนยันอยากเห็นทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงกันอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนว่าอเมริกาอาจถอนตัวจากความพยายามไกลเกลี่ย และมุ่งหน้าไปยังประเด็นอื่นๆแทน หากมันไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ทรัมป์ มีกำหนดเดินทางไปยังซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์หน้า ซึ่งถูกใช้เป็นเวทีกลางของการเจรจาแยกกันระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย และกับยูเครน
เมื่อถูกถามว่าเขาจะสร้างความประหลาดใจด้วยการพบปะหารือกับ ปูติน ในซาอุดีอาระเบีย หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "ผมไม่คิดเช่นนั้น แต่เรามีการสนทนากันที่ดีมากๆ ดีมากๆ"
แรงกดดันที่ ทรัมป์ ถาโถมเข้าใส่รัสเซียในวันพฤหัสบดี(8พ.ค.) มีขึ้นในวันเดียวกับที่รัฐสภายูเครน ให้การรับรองข้อตกลงแร่หายากที่ทำไว้กับสหรัฐฯ ที่ทาง เซเลนสกี มีความตั้งใจลงนาม ส่วนหนึ่งในเคลื่อนไหวปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับรัฐบาลสหรัฐฯ ตามหลังศึกวิวาทะที่ทำเนียบขาว
ข้อตกลงนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาร่วมทรัพยากรแร่และทรัพยากรธรรมชาติของยูเครนที่ใช้ในเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่มอบคำรับประกันด้านความมั่นคงใดๆจากวอชิงตัน อย่างไรก็ตามรัฐบาลทรัมป์อ้างว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของพวกเขาในยูเครน จะทำหน้าที่เป็นป้อมปราการรับมือกับรัสเซีย ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว
(ที่มา:เอเอฟพี)