xs
xsm
sm
md
lg

โลกใจชื้น!US-UKแถลงบรรลุข้อตกลงการค้า ทรัมป์ส่งสัญญาณมีหวังปิดดีล'จีน'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในวันพฤหัสบดี(8พ.ค.) แถลงข้อตกลงการค้าทวิภาคีแบบจำกัด ที่จะคงมาตรการรีดภาษีพื้นฐาน 10% ของทรัมป์เอาไว้, เพิ่มการเข้าถึงสินค้าทางการเกษตรของทั้ง 2 ชาติ และอเมริกาปรับลดภาษีรถยนต์นำเข้าจากสหราชอาณาจักร ขณะเดียวกันผู้นำสหรัฐฯตั้งความหวังค่อนข้างสูงเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ข้อตกลงเบื้องต้นนี้เป็นหนึ่งในข้อตกลงปรับลดเพดานภาษีกับหลายสิบชาติ ที่ ทรัมป์ พยายามบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากเขาสร้างแรงสั่นสะเทือนแก่เศรษฐกิจโลก ด้วยการกำหนดเพดานภาษีสินค้านำเข้าสูงลิ่ว ในความพยายามยกเครื่องการค้าโลกให้เอื้ออำนวยต่ออเมริกา และปรับลดตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์

ทรัมป์ เน้นย้ำว่าข้อตกลงกับสหราชอาณาจักร ไม่ได้เป็นแม่แบบสำหรับการเจรจากับชาติอื่นๆ และบอกว่าแม้สหราชอาณาจักร "ทำข้อตกลงที่ดี" แต่กับประเทศคู่หูทางการค้าอื่นๆอีกมาก อาจจบลงด้วยการถูกรีดภาษีในขั้นท้ายที่สุดสูงกว่าเดิมมาก สืบเนื่องเพราะพวกเขาเหล่านั้นเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯอย่างมหาศาล

ในเดือนเมษายน ทรัมป์ กำหนดมาตรการรีดภาษีตอบโต้สูงสุด 50% กับสินค้าที่นำเข้าจาก 57 ชาติคู่หูทางการค้า ในนั้นรวมถึงสหภาพยุโรป ก่อนระงับบังคับใช้ในไม่กี่วันต่อมา เพื่อเปิดทางสำหรับการเจรจา ในขณะเดียวกันเขาเพิ่มภาษีนำเข้ายานยนต์ 25% และยุติการยกเว้นภาษีทั้งหมดกับเหล็กและอลูมีเนียมนำเข้า พร้อมกับแถลงตรวจสอบความเป็นไปได้ของการปรับเพิ่มเพดานภาษียา, ทองแดง, ไม้แปรรูปและเซมิคอนดัคเตอร์

ระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ทั้ง 2 ผู้นำต่างกล่าวยกย่องข้อตกลงผ่าทางตัน ที่ปรับลดเพดานภาษีที่สหราชอาณาจักรเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยจาก 5.1% เหลือ 1.8% "มันเป็นการเปิดตลาดครั้งใหญ่สำหรับเรา" ทรัมป์กล่าว ส่วน สตาร์เมอร์ พูดผ่านเทคโนโลยีประชุมทางไกล เสริมว่า "มันเป็นวันที่น่าอัศจรรย์และเป็นวันประวัติศาสตร์ มันจะช่วยส่งเสรริมการค้าระหว่างกันและทั่วประเทศของพวกเรา มันไม่ใช่แค่จะช่วยปกป้องงาน แต่จะสร้างงาน และเปิดการเข้าถึงตลาด"

ข้อตกลงการค้าแรกของทรัมป์โหมกระพือการดีดตัวขึ้นของวอล์สตรีท โดยเฉพาะหุ้นของสายการบินต่างๆ หลังจาก ฮาวเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เผยว่าเครื่องยนต์โรลล์ส-รอยซ์ ที่ผลิตโดยสหราชอาณาจักร จะเข้าสู่สหรัฐฯแบบปลอดภาษี

ในทางกลับกัน สายการบินต่างๆของสหราชอาณจักรจะสั่งซื้อเครื่องบินลำใหม่จากโบอิ้ง มูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ความเคลื่อนไหวที่ทำให้หุ้นของโบอิ้งดีดตัวขึ้นเกือบ 4% ก่อนปิดตลาดในวันพฤหัสบดี(8พ.ค.) ส่วน โรลล์ส-รอยซ์ ขยับขึ้น 3.5% ในลอนดอน

รัฐบาลของทรัมป์ถูกกดดันจากพวกนักลงทุนให้บรรลุข้อตกลงคลายความตึงเครียดในสงครามรีดภาษี หลังจากทรัมป์ใช้นโยบายยกเครื่องการค้าโลกที่สร้างความยุ่งเหยิง กำหนดมาตรการรีดภาษีเล่นงานทั้งมิตรและศัตรูไม่ต่างกัน เสี่ยงโหมกระพือเงินเฟ้อและจุดชนวนภาวะเศรษฐกิจถดถอย

อย่างไรก็ตามความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดของเขา ก็คือคลี่คลายศึกรีดภาษีกับจีน ที่เสมือนกับเป็นการปิดล้อมทางการค้า หลังสหรัฐฯและจีน ต่างฝ่ายต่างปรับขึ้นเพดานภาษีสินค้านำเข้าจากอีกฝ่าย 145% และ 125% ตามลำดับ

เจ้าหน้าที่ของวอชิงตันและปักกิ่งมีกำหนดพบปะเจรจากันในสวิตเซอร์แลนด์ในวันเสาร์นี้(10พ.ค.) ในขณะที่ ทรัมป์ แสดงความคาดหมายเกี่ยวกับการเจรจาที่เป็นรูปธรรมระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย และบอกว่าจะไม่รู้สึกประหลาดใจเลยหากว่าสามารถบรรลุข้อตกลงหนึ่งๆได้

สตาร์เมอร์กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้สหรัฐฯยกเลิกอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากเหล็กและอลูมิเนียมที่มีการนำเข้าจากสหราชอาณาจักร และสหรัฐฯจะปรับลดอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากรถยนต์ของสหราชอาณาจักรจำนวน 100,000 คันต่อปี โดยอัตราภาษีจะลดลงสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 27.5%

นอกจากนี้ สตาร์เมอร์กล่าวว่า ในทางกลับกัน สหราชอาณาจักรจะอนุญาตให้สหรัฐฯส่งออกเนื้อวัวจำนวน 13,000 ตันโดยปลอดภาษีเข้าสู่สหราชอาณาจักร รวมทั้งสหราชอาณาจักรจะระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อเอทานอลที่มีการนำเข้าจากสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามกลุ่มธุรกิจสหราชอาณาจักร-อเมริกัน แสดงความผิดหวังที่ข้อตกลงนี้เปิดทางให้ทรัมป์คงภาษีพื้นฐาน 10% ที่เรียกเก็บกับสินค้าหลายรายการ ในนั้นรวมถึงรถยนต์ เพิ่มต้นทุนสำหรับผู้ส่งออกสหราชอาณาจักร กระนั้นพวกเขาแสดงความหวังว่าข้อตกลงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับสหราอาณาจักรแน่นแฟ้นขึ้น ในนั้นรวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล

ปีเตอร์ แมนเดลสัน เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำสหรัฐฯ เห็นพ้องด้วยและบอกว่าข้อตกลงนี้จะเป็นก้าวย่างแรกในการลดมาตรการรีดภาษีและอุปสรรคทางการค้าต่างๆนานาระหว่าง 2 ชาติพันธมิตร

ในขณะที่ ลุตนิค บอกว่าข้อตกลงนี้จะมอบโอกาสการส่งออกใหม่ๆสำหรับบรรดาผู้ผลิตสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าราวๆ 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ขณะที่เพดานภาษีที่ปรับสูงขึ้น จะก่อรายได้แก่อเมริกา 6,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี

(ที่มา:รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น