เอเจนซีส์ - วันแรกของการประชุมลับเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ล้มเหลวส่งสัญญาณควันดำลอยออกมาจากปล่องไฟโบสถ์น้อยซิสทีนภายในพระราชวังพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของพระสันตะปาปาในนครรัฐวาติกันระหว่างการลุ้นระทึกของผู้คนที่เฝ้ารอดูด้านนอกกลางจตุรัสเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวานนี้(7 พ.ค)ว่า ควันดำที่พวยพุ่งออกมาจากปล่องไฟโบสถ์น้อยซิสทีนส่งสัญญาณให้รู้คณะพระคาร์ดินัลจำนวน 133 องค์ยังไม่สามารถเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ได้สำเร็จในวันแรกเกิดขึ้นในวันพุธ(7)ในการประชุมลับเลือกประมุขแห่งโฮลีซีที่เรียกว่า conclave
เกิดขึ้นหลังกระบวนการที่ได้กำหนดให้เหล่าพระคาร์ดินัลต้องเข้าพิธีสาบานก่อนเข้าสู่โบสถ์น้อยมิสทีนที่จะมีการปิดประตูเป็นการประชุมลับที่ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดในโลก
การประชุมลงมติรอบแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.45 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธ(7) และหลังจากนั้นสายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ปล่องไฟวาติกันที่มีชื่อเสียงและได้รับการปกป้องจากนกนางนวลที่บินมาเกาะบางครั้งบางคราวระหว่างเหล่าพระคาร์ดินัลกำลังออกเสียง
แต่อย่างไรก็ตามความตรึงเครียดในการเฝ้ารอในที่สุดควันไฟดำได้ปรากฎเป็นสัญญาณปรากฎออกมาในเวลา 21.05 น.ต่อเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องที่รวมตัวไม่ต่ำกว่า 45,000 คน
การประชุมลับจะยังดำเนินการต่อไปในวันพฤหัสบดี(8)และจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อที่ประชุมลงมติได้สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่แทนพระองค์เก่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่สิ้นพระชนม์ในวัย 88 พรรษาเมื่อวันจันทร์อีสเตอร์ที่ 21 เม.ย
เดอะการ์เดียนรายงานว่า จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์แน่นขนัดไปด้วยคริสต์ศาสนิกชน ที่เฝ้ารอถึงแม้จะไม่คาดว่าจะสามารถเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่ได้ในวันแรกก็ตาม
ซินเซีย คาโปราลี (Cinzia Caporali) พร้อมสามีจากทัสคานีได้เดินทางมาถึงกรุงโรมเพื่อเคารพหลุมพระศพโป๊ปฟรานซิสที่ถูกฝังไว้ในมหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร (Santa Maria Maggiore basilica) ในเอสควีลิโน (Esquilino)ซึ่งเป็นย่านชานเมือง
คาโปราลีรำลึกย้อนไปถึงสมัยเหตุการณ์เมื่อครั้งสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งเป็นผู้นำคริตจักรก่อนโป๊ปฟรานซิสได้รับเลือกในเมษายนปี 2005
เป็นการประชุมลับเลือกโป๊ปที่สั้นที่สุดไม่ถึง 36 ชั่วโมงกลายเป็นหนึ่งในการเลือกที่เร็วที่สุดในรอบ 100 ปี
แต่ทว่าในครั้งนี้คาโปราลีชาวอิตาลีนั้นต้องการที่จะเฝ้ารอว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นพระประมุขแห่งวาติกันพระองค์ใหม่โดยเธอกล่าวว่า “ดิฉันหวังว่ามันจะเป็นการต่อเนื่องของโป๊ปฟรานซิส”
และเสริมว่า “ท่านเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มคนที่ชายขอบที่เปราะบางและขาดโอกาส และพวกเราต้องการแน่ใจว่านี่จะคงอยู่ต่อไป พวกเราไม่ต้องการที่จะเห็นการแสดงความมั่งคั่งของศาสนจักรซึ่งนี่มันล้าสมัยไปแล้ว”