ลาร์ส เลิกเกอ ราสมุสเซน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเดนมาร์ก ระบุวานนี้ (7 พ.ค.) ว่าตนจะเรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเดนมาร์กเข้าพบเพื่อขอคำอธิบาย หลังหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) รายงานว่า รัฐบาลวอชิงตันมีการสั่งให้หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ยกระดับ "สอดแนม" กรีนแลนด์
"ผมได้อ่านบทความของ WSJ แล้วรู้สึกกังวลอย่างมาก เพราะการสอดแนมมิตรเป็นสิ่งที่เราไม่ทำกัน" ราสมุสเซน ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูแบบไม่เป็นทางการที่กรุงวอร์ซอ เมืองหลวงโปแลนด์
"เราจะเชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ มาหารือที่กระทรวงต่างประเทศเพื่อขอคำยืนยันเกี่ยวกับข้อมูลนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจ" เขากล่าว
รายงานของ WSJ เมื่อวันอังคาร (6) อ้างแหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนาม 2 รายซึ่งระบุว่า สหรัฐฯ กำลังยกระดับปฏิบัติการสอดแนมเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งถือเป็นการดึงเอาหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ มาเข้าร่วมในแผนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการยึดเกาะแห่งนี้มาเป็นของอเมริกา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับกิจการข่าวกรอง แต่อ้างไปถึงถ้อยแถลงของ เจมส์ ฮิววิตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวที่บอกว่า ทรัมป์ เคยพูดชัดเจนไปแล้วว่าสหรัฐฯ กังวลเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของกรีนแลนด์และอาร์กติก
ทรัมป์ เคยกล่าวย้ำหลายครั้งว่าอยากจะเทคโอเวอร์กรีนแลนด์ซึ่งเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์กในอาร์กติก และไม่ปฏิเสธการใช้กำลังทหาร จนก่อวิกฤตความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ เดนมาร์ก และกรีนแลนด์
ผู้นำของทั้งเดนมาร์กและกรีนแลนด์ต่างออกมาส่งเสียงตรงกันว่า อนาคตของกรีนแลนด์ต้องให้ชาวกรีนแลนด์เท่านั้นเป็นผู้ตัดสินใจ
กระนั้นก็ตาม พวกเขาก็จำเป็นต้องแสดงท่าทีอย่างระมัดระวัง และไม่ปฏิเสธความต้องการของ ทรัมป์ อย่างแข็งกร้าวเสียทีเดียว เพื่อคงความสัมพันธ์ที่ดีกับมิตรเก่าแก่อย่างวอชิงตันเอาไว้
ที่มา: รอยเตอร์