อินเดียรัวยิงขีปนาวุธเข้าใส่ดินแดนของปากีสถานในช่วงเช้าวันพุธ(7พ.ค.) โหมกระพือสถานการณ์ความตึงเครียดครั้งใหญ่ ระหว่าง 2 ชาติคู่อริติดอาวุธนิวเคลียร์ กระตุ้นให้อิสลามาบัดออกมาประกาศกร้าวว่าจะแก้แค้นอย่างแน่นอน
รัฐบาลอินเดียเผยว่าพวกเขาถล่มที่ตั้งต่างๆ 9 แห่ง พร้อมให้คำจำกัดความว่าเป็นการโจมตีอย่างแม่นยำเล่นงานแคมป์พวกก่อการร้ายในดินแดนแคชเมียร์ ในซีกที่อยู่ภายใต้การบริหารของปากีสถาน หลายวันหลังจากพวกเขากล่าวโทษอิสลามาบัด ต่อเหตุโจมตีนองเลือดสังหารนักท่องเที่ยว ในซีกที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย ในแคว้นที่เป็นข้อพิพาทแห่งนี้
คาวาจา มูฮัมหมัด อาซีฟ รัฐมนตรีกลาโหมปากีสถาน บอกกับเอเอฟพีว่า มีพลเรือน 3 ราย ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตี ซึ่งพุ่งโดนตำแหน่งต่างๆอย่างน้อย 5 แห่ง "เรายืนยันรายงานข่าวที่ว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 3 ราย ในนั้นรวมถึงเด็ก 1 คน"
ก่อนหน้านี้กองทัพปากีสถานบอกว่าในตำแหน่งต่างๆที่ถูกโจมตีนั้น ในนนั้น 3 จุด อยู่ในแคว้นแคชเมียร์ ที่อยู่ภายใต้การบริหารของปากีสถาน และอีก 2 จุด อยู่ในเมืองบาฮาวัลปูร์และเมืองมูริดเก ในจังหวัดปัญจาบ ที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในแคว้นแคชเมียร์ ในส่วนที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถานและในจังหวัดปัญจาบ รายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นดังขึ้นหลายครั้ง "เราจะแก้แค้น ส่วนจะเป็นวันใดเวลาไหน เราจะเป็นคนเลือกเอง" โฆษกกองทัพปากีสถานกล่าว พร้อมเรียกการโจมตีของอินเดียว่าเป็นการ "ยั่วยุอย่างชั่วร้าย"
ไม่นานหลังจากนั้น อินเดียกล่าวหาปากีสถานยิงปืนใหญ่ข้าม "แนวแห่งการควบคุม" ซึ่งถือเป็นเขตชายแดนโดยพฤตินัยในแคชเมียร์
เป็นที่คาดหมายไว้อยู่ก่อนแล้วว่า อินเดีย จะตอบโต้ทางทหารต่อเหตุโจมตีสังหารหมู่นักนักท่องเที่ยวในแคว้นแคชเมียร์ ซีกที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย เมื่อวันที่ 22 เมษายน ซึ่งเชื่อกันว่าพวกมือปืนที่ลงมือก่อเหตุนั้นมาจากกลุ่มลัชกัร-อี-ตอยบา ในปากีสถาน ซึ่งถูกสหประชาชาติขึ้นในบัญชีดำในฐานะองค์กรก่อการร้าย
การโจมตีดังกล่าวสังหารไป 26 ชีวิต ส่วนใหญ่เป็นชายชาวฮินดู ในเมืองพาฮาลแกม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบ
นิวเดลี กล่าวโทษอิสลามาบัดว่าให้การหนุนหลังเหตุโจมตี โหมกระพือคำขู่อันเดือดดาลตอบโต้กันไปมา และมาตรการด้านการทูตแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
ปากีสถานปฏิเสธข้อกล่าวหา และทั้ง 2 ฝ่ายยิงปะทะกันยามค่ำคืนมาตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน ตามแนวชายแดนโดยพฤตินัยของแคว้นแคชเมียร์
ปฏิบัติการโจมตีด้วยขีปนาวุธในวันพุธ(7พ.ค.) ถือเป็นโหมกระพือความขัดแย้งที่เป็นอันตรายระหว่าง 2 ชาติเพื่อนบ้านในเอเชียใต้ ซึ่งเคยทำศึกสงครามกันมาแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่พวกเขาได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรในปี 1947
เป็นเวลานานหลายวันแล้วที่ประชาคมนานาชาติถาโถมแรงกดดันเข้าใส่ปากีสถานและอินเดีย ให้ถอยห่างจากขอบเหวแห่งสงคราม และเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเหตุโจมตี ทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯบอกกับพวกผู้สื่อข่าว แสดงความหวังว่าการสู้รบ "จะหยุดลงอย่างรวดเร็วมากๆ"
ส่วน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ แสดงความกังวลใหญ่หลวงต่อกรณีที่กองทัพอินเดียโจมตีใส่ปากีสถาน และเรียกร้องทั้ง 2 ประเทศอดทนอดกลั้นขั้นสูงสุด พร้อมเร่งเร้าทั่วโลกอย่าปล่อยให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างอินเดียกับปากีสถาน
กองทัพอินเดีย โพสต์วิดีโอบนบัญชีแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ตามหลังการโจมตีในวันพุธ(7พ.ค.) ว่า "ความยุติธรรมได้รับการชดใช้แล้ว" พร้อมเน้นย้ำว่าปฏิบัติการของพวกพวกเขา "มีลักษณะมุ่งเน้นเป็นการเฉพาะ ระมัดระวังและไม่ขยายสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลาย"
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าได้ยินเสียงเครื่องบินขับไล่ของอินเดียบินอยู่เหนือศรีนาการ์ เมืองเอกของแคว้นแคชเมียร์ ในส่วนของอินเดีย นอกจากนี้แล้วยังได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นในเมืองพูนช์ ที่อยู่ห่างจากแนวควบคุมไม่ถึง 16 กิโลเมตร
ก่อนหน้าการโจมตี ทางกองทัพปากีสถานได้ทำการยิงทดสอบขีปนาวุธ 2 ลูกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธยิงจากพื้นผิวสู่พื้นผิว ที่มีพิสัยทำการ 450 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางพอๆกับจากชายแดนปากีสถานไปถึงกรุงนิวเดลี
ส่วนทางฝ่ายอินเดีย เตรียมจัดการฝึกซ้อมป้องกันพลเรือนหลายแห่งในวันพุธ(7พ.ค.) เพื่อเตรียมความพร้อมแก่ประชาชนให้ "ปกป้องตนเองในกรณีที่ถูกโจมตีจากศัตรู"
เหตุโจมตีมีขึ้นในขณะที่ อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ถูกคาดหมายว่าจะเดินทางเยือนนิวเดลีในวันพุธ(7พ.ค.) หรือ 2 วันหลังจากเดินทางไปยังอิสลามาบัด พูดคุยหารือกับ เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน
เตหะรานเสนอตัวเป็นคนกลางระหว่าง 2 ชาติ และอารากชี ถือเป็นผู้แทนทูตต่างชาติระดับสูงคนแรกที่เดินทางเยือนทั้ง 2 ประเทศ นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ฉุดความสัมพันธ์ดำดิ่ง
พวกกบฏในแคว้นแคชเมียร์ ในส่วนที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย ลงมือก่อความไม่สงบมาตั้งแต่ปี 1989 เสาะหาความเป็นเอกราชหรือผนวกเข้ากับปากีสถาน
อินเดียกล่าวโทษเพื่อนบ้านแห่งนี้ โทษฐานให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในการสู้รบกับกองทัพของพวกเขาในแคชเมียร์ ข้อกล่าวหาที่ทางอิสลามาบัดปฏิเสธ
(ที่มา:เอเอฟพี)