รัฐบาลอินเดียประกาศห้ามนำเข้าสินค้าที่ผลิตหรือขนส่งผ่านปากีสถาน ท่ามกลางความสัมพันธ์การทูตระหว่าง 2 มหาอำนาจนิวเคลียร์เพื่อนบ้านที่ตกต่ำลงอย่างรุนแรงจากเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในดินแดนแคชเมียร์ฝั่งอินเดีย
กรมการค้าต่างประเทศของอินเดีย (Directorate General of Foreign Trade – DGFT) ระบุในคำประกาศว่า มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ในทันที
“ข้อจำกัดนี้ถูกบังคับใช้เพื่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติและนโยบายสาธารณะ” DGFT ระบุ
ผู้ต้องสงสัยกลุ่มติดอาวุธได้ก่อเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวในเขตพาฮัลกัม (Pahalgam) บริเวณหุบเขาแคชเมียร์ฝั่งอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 26 ราย
ทั้งอินเดียและปากีสถานต่างอ้างอธิปไตยเหนือดินแดนทั้งหมดของแคชเมียร์ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่นับถืออิสลาม และข้อพิพาทนี้ได้เป็นต้นเหตุของสงคราม การก่อความไม่สงบ และเหตุเผชิญหน้าทางการทูตระหว่างทั้ง 2 ชาติมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
อินเดียกล่าวหารัฐบาลปากีสถานว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มติดอาวุธ ในขณะที่อิสลามาบัดยืนกรานปฏิเสธ
รัฐบาลปากีสถานยังอ้างว่า “ได้รับข่าวกรองที่น่าเชื่อถือ” ว่านิวเดลีจะเปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตีดินแดนปากีสถานในไม่ช้า
ความขัดแย้งล่าสุดนี้ยังทำให้ปากีสถานตอบโต้ด้วยการระงับการค้ากับอินเดียทั้งหมด ปิดน่านฟ้าไม่ให้เครื่องบินอินเดียผ่าน และขับไล่นักการทูตแดนภารตะ
ฝ่ายอินเดียได้ประกาศปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินของปากีสถานผ่านเข้า-ออกเช่นกัน และยังระงับสนธิสัญญาแม่น้ำสินธุซึ่งเป็นข้อตกลงว่าด้วยการกระจายน้ำระหว่าง 2 ประเทศ ทำให้รัฐบาลปากีสถานออกมาขู่ว่า หากอินเดียพยายามปิดกั้นการไหลของแม่น้ำสินธุจะถือเป็นการ “ประกาศสงคราม”
ที่มา: รอยเตอร์