ยูเครน ยอมอ่อนข้อ ตกลงยอมรับการควบคุมของรัสเซียเหนือไครเมียและแคว้นอื่นๆอีก 4 แห่ง แต่ต้องปราศจากการรับรองอำนาจอธิปไตยของมอสโกเหนือดินแดนเหล่านี้อย่างเป็นทางการ จากคำกล่าวอ้างของ คีธ เคลล็อกก์ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
ในการสัมภาษณ์เมื่อวันพุธ(30เม.ย.) มาร์ธา แม็คคัลลัม พิธีกรของฟ็อกซ์นิวส์ สอบถาม เคลล็อกก์ ว่าสหรัฐฯจะยอมรับข้อเรียกร้องของมอสโกหรือไม่ ที่ขอให้เพิกถอนคำกล่าวอ้างของยูเครนเหนือดินแดนต่างๆที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย
"บางส่วน ใช่ ยูเครนบอกว่า พวกเขามีความตั้งใจสละดินแดน ไม่ใช่ตลอดกาล ไม่ใช่การยอมรับทางกฎหมาย แต่เป็นโดยพฤตินัย เพราะว่าข้อเท็จจริงคือรัสเซียยึดครองมัน พวกเขายอมรับในเรื่องนั้น พวกเขาบอกกับผมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว" เคลล็อกก์กล่าว
เคลล็อกก์ เผยด้วยว่ายูเครนต้องการข้อตกลงหยุดยิง ที่จะหมายถึง "คุณนั่งอยู่กับที่ ในที่ที่คุณครอบครองอยู่ในปัจจุบัน"
ทูตพิเศษรายนี้เผยว่าเขาได้พบปะกับพวกเจ้าหน้าที่ยูเครนในลอนดอน เมื่อวันที่ 23 เมษายน และพวกเขาเห็นพ้อง "22 เงื่อนไขที่เป็นรูปธรรม" ที่เสนอโดยสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงข้อตกลงหยุดยิงอย่างครอบคลุมเป็นเวลา 30 วัน พร้อมกับเร่งเร้าให้มอสโกตอบรับข้อเสนอชี้เช่นกัน
อย่งไรก็ตาม รัสเซีย ยืนกรานว่าข้อตกลงหยุดยิงอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีความจำเป็นเพื่อหยุดยุทธการระดมพลและหยุดการรับความช่วยเหลือทางทหารจากต่างแดน นอกจากนี้แล้วประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังเรียกร้องให้ เคียฟ ถอนตัวออกจากดินแดนต่างๆที่รัสเซียยังคงกล่าวอ้าว
ที่ผ่านมา มอสโก กล่าวหา ยูเครน ละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อข้อตกลงหยุดโจมตีพลังงานเป็นเวลา 30 วัน ที่มีทรัมป์เป็นคนกลางในเดือนมีนาคม เช่นเดียวกับข้อตกลงหยุดยิงช่วงอีสเตอร์ 30 ชั่วโมง เมื่อเดือนที่แล้ว
ไครเมีย โหวตแยกตัวจากยูเครน และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ไม่นานหลังจากเกิดรัฐประหารที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯในเคียฟ จากนั้นแคว้นโดเนตสก์, ลูฮันสก์, เคียร์ซอน และ ซาปอริซเซีย ก็ดำเนินการแบบเดียวกัน ตามหลังการลงประชามติในปี 2022
มีรายงานว่าข้อตกลงที่เสนอโดววอชิงตัน รวมไปถึงการที่สหรัฐฯรับรองอธิปไตยของรัสเซียเหนือไครเมีย ตรึงความขัดแย้งไว้ที่แนวหน้าในปัจจุบัน และยอมรับการควบคุมของมอสโกเหนือพื้นที่ขนาดใหญ่ของอดีต 4 แคว้นของยูเครน ขณะเดียวกันข้อตกลงดังกล่าวยังรวมไปถึงการขัดขวางยูเครนเข้าร่วมนาโต และเริ่มปลดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียอย่างค่อยเป็นค่อยไป
(ที่มา:ฟ็อกซ์นิวส์/อาร์ทีนิวส์)