ปักกิ่งรื้อฟื้นคำกล่าวหาที่ว่าโควิด-19 อาจมีแหล่งที่มาในสหรัฐฯ ขึ้นมาอีกรอบ ในสมุดปกขาวที่เผยแพร่ออกมาในวันพุธ(30เม.ย.) ในความเคลื่อนไหวตอบโต้อเมริกา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโทษต้นตอของโรคระบาดใหญ่ ไปที่เหตุรั่วไหล ณ ห้องปฏิบัติการวิจัยหนึ่งในจีน
ทำเนียบขาวเปิดตัวเว็บไซต์โควิด-19 เมื่อวันที่ 18 เมษายน ซึ่งระบุว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มาจากการรั่วไหล ณ ห้องปฏิบัติการวิจัยแห่งหนึ่งในจีน พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน, แอนโทนี เฟาซี อดีตเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของสหรัฐฯ และองค์การอนามัยโลก
ในสมุดปกขาวที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวซินหัว สื่อมวลชนแห่งรัฐ จีนกล่าวหาสหรัฐฯทำให้เรื่องต้นกำเนิดของโควิด-19 เป็นประเด็นทางการเมือง อ้างถึงการฟ้องร้องหนึ่งในมิสซูรี ซึ่งศาลพิพากษาสั่งให้ จีนจ่ายเงินชดใช้ความเสียหายแก่รัฐแห่งนี้ เป็นเงิน 24,000 ล้านดอลลาร์ จากคำกล่าวหาที่ว่าปักกิ่งชักนำให้โลกเข้าใจผิดๆและปกปิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงกักตุนอุปกรณ์ป้องกัน ในช่วงเดือนแรกๆ ของโรคระบาดใหญ่
สมุดปกขาวระบุว่าจีนแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์การอนามัยโลกและประชาคมนานาชาติอย่างทันเวลา พร้อมเน้นย้ำว่าผลการศึกษาร่วมระหว่างองค์การอนามัยโลกกับจีน ได้ข้อสรุปว่า "มันเป็นไปไม่ได้อย่างมาก" ที่ต้นตอของโควิด-19 จะมาจากการรั่วไหลออกจากห้องปฏิบัติการ
"สหรัฐฯไม่ควรเดินหน้าแสร้งทำเป็นคนหูหนวกและโง่เขลา แต่ควรตอบสนองต่อความกังวลที่ชอบธรรมของประชาคมนานาชาติ" สมุดปกขาวระบุ "มีหลักฐานสำคัญบ่งชี้ว่าโควิด-19 อาจโผล่ขึ้นในสหรัฐฯ ตั้งแต่ก่อนหน้าช่วงเวลาที่มีการกล่าวอ้างอย่างเป็ฯทางการ และตั้งแต่ก่อนหน้าเกิดการแพร่ระบาดในจีนด้วยซ้ำ"
ซีไอเอ ระบุในเดือนมกราคม ว่ามีความเป็นไปได้ที่โรคระบาดใหญ่จะโผล่ออกมาจากห้องปฏิบัติการวิจัยหนึ่งในจีน มากกว่าจะมาจากธรรมชาติ หลังจากเคยบอกก่อนหน้านี้มานานหลายปีว่าพวกเขาอาจไม่ได้ข้อสรุปในประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้ซีไอเอระบุว่ามีความมั่นใจในระดับต่ำในคำประเมินใหม่นั้น และเน้นย้ำว่าต้นตอของโรคระบาดใหญ่ ยังมีความเป็นไปได้ทั้งจากห้องปฏิบัติการวิจัยและมีแหล่งที่มาจากธรรมชาติ
สำนักข่าวซินหัว อ้างอิงถ้อยแถลงหนึ่งเกี่ยวกับสมุดปกขาว ระบุว่าเจ้าหน้าที่ ณ คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ บอกว่าก้าวข่างถัดไปของการงานด้านการแกะรอยต้นกำเนิดของโควิด-19 ควรมุ่งเน้นไปที่สหรัฐฯ
(ที่มา:รอยเตอร์)