เจ้าชายกับเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงเสกสมรสกันมาครบ 14 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 29 เมษายน 2025 และทรงเสด็จเยือนเกาะมัลล์อย่างเป็นทางการ สองวันหนึ่งคืน พร้อมฉลองความรักยั่งยืนกันที่เกาะโบราณแห่งนี้ในสกอตแลนด์ อันเป็นประเทศที่พระองค์ทั้งคู่ทรงช่วยกันปลูกต้นรักขณะศึกษาเล่าเรียนระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ และเหนืออื่นใด เมื่อปี 2005 ทั้งสองพระองค์ อีกทั้งก๊วนพระสหาย เดินทางไปฉลองความสำเร็จด้านการศึกษาในกิจกรรมครึกครื้นด้วยกันในทริปแห่งความฝันสี่วันสามคืน
สำหรับทริปปี 2025 นี้ซึ่งปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ทรงเป็น “ท่านลอร์ดและเลดีแห่งเดอะไอเอิลส์” ของประชาชนชาวมัลล์ เป็นทริปทรงงานด้านการส่งเสริมบรรดาชุมชนนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนเศรษฐกิจยั่งยืน พร้อมกับเป็นทริปแห่งความรักในห้วงระหว่างวันที่ 29-30 เมษายน 2025
ยิ่งกว่านั้น นี่ยังเป็นทริปแห่งขั้นตอนล่าสุดสำหรับเจ้าหญิงแคเธอรินในการฟื้นฟูพระพลานามัยให้แข็งแรงปลอดภัยจากพระโรคมะเร็ง เอเอฟพีรายงานตามคำแถลงจากสำนักพระราชวังเคนซิงตัน
“ตั้งตาคอยที่จะไปเยือนเกาะมัลล์พรุ่งนี้ เพื่อฉลองครบรอบแต่งงาน และจะไปต่อสายกับชุมชนต่างๆ บนเกาะชนบทอันงดงาม” ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ทรงเขียนขึ้นโซเชียลมีเดียเมื่อ 28 เมษายน 2025
เอเอฟพีรายงานตารางพระภารกิจของพระองค์ทั้งสองว่า จะทรงอยู่กับบรรดาชุมชนท้องถิ่นเพื่อดูว่าผู้คนปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างไร ก่อนที่จะเสด็จกลับพระตำหนักอเดลเลดในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์ ไปโอบกอดรับขวัญพระโอรสและพระธิดาทั้งสามพระองค์ในค่ำวันพุธที่ 30 เมษายน
เกาะมัลล์เป็นหนึ่งบรรพสุดแสนโรแมนติกในเทพนิยายรัก “แคเธอริน-วิลเลียม” แห่งวินด์เซอร์ โดยทั้งสองพระองค์ไปเยือนเกาะโบราณนี้เป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปี 2005 อันเป็นวันวารหวานอร่อยแห่งความรักนักศึกษาเซนต์แอนดรูส์ และเป็นเดือนเบิร์ธเดย์ของปรินซ์วิลเลียมด้วย
แคเธอรินและวิลเลียมในพระชนมายุ 22-23 พรรษา ตลอดจนก๊วนพระสหายสนิท มีความทรงจำแสนดีว่า ได้เล่นสนุกกันกับชาวเกาะทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “แมตช์สาดน้ำตูมตาม” กับหลายๆ ทีมของชาวมัลล์ แล้วไปจิบเบียร์ในผับประจำเกาะ ไปช็อปปิงในร้านสหกรณ์ และร่วมวงปิ้งย่างบาร์บีคิวกับชาวมัลล์ เดลิเมลออนไลน์รายงาน
เกาะมัลล์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเกาะอินเนอร์เฮบริดีส (อยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศสกอตแลนด์) ได้ต้อนรับคณะนักศึกษาก๊วนปรินซ์วิลเลียม ที่ไปฉลองสอบไฟนอลเสร็จ และหมายถึงว่าภารกิจการเรียนระดับปริญญาตรีคือเรียบร้อยสมบูรณ์
เดลิเมลออนไลน์เล่าว่าชาวคณะวิลเลียมทัวร์เลือกเช่าบ้านพักตากอากาศวิกทอเรีย คอตเทจ ในโทเบอร์มอรี เมืองเอกของเกาะมัลล์ โดยบ้านพักตากอากาศนี้อยู่ในโลเคชันสุดยอด คือ มองเห็นท่าเรือและท้องทะเล
ปรินซ์วิลเลียมกับเคท มิดเดิลตัน และก๊วนพระสหาย ลงเรือเฟอร์รีข้ามไปเกาะมัลล์ ชาวบ้านบอก “ประหลาดใจ ไม่อยากเชื่อสายตา” ว่าได้เห็นเจ้าชายพระองค์เป็นๆ อย่างใกล้ชิด ทรง “คุยเก่ง” เชียวล่ะ
ในวันเดินทางไปยังเกาะมัลล์นั้น ชาวคณะวิลเลียมทัวร์ลงเรือเฟอร์รีที่เมืองโอบาน ปะปนไปกับประชาชน ทั้งนี้ มีหนุ่มมัลล์นายหนึ่งยังจำเหตุการณ์ได้ และเล่าสู่เดลิเมลออนไลน์ว่า ชาวบ้านประหลาดใจและแทบจะไม่เชื่อสายตา ที่ได้เห็นปรินซ์วิลเลียมพระองค์เป็นๆ เดินอยู่ในท่ามกลางผู้คนอย่างง่ายๆ และรื่นเริง โดยไม่มีการปกปิดอำพรางใดๆ
หนุ่มรายดังกล่าวเล่าด้วยว่า ปรินซ์ทรง “คุยเก่ง” และไม่ถือพระองค์เลย และในขณะอยู่บนเรือ ปรินซ์ทรงประทับข้างๆ กับหญิงสาวสุดสวยนางหนึ่ง แต่ไม่มีใครคิดว่าเธอเป็นพระคู่รัก
ทั้งนี้ นักศึกษาเซนต์แอนดรูส์กลุ่มนี้มากันเป็นทีม ปรินซ์ทรงสนิทกับพระสหายทุกราย และที่สำคัญคือ ไม่มีการจูงมือ โอบกอด หรือการโชว์หวานใดๆ แม้ว่าในศักราชดังกล่าว สาวเคท มิดเดิลตัน เป็นพระคู่รักเพียงรายเดียวของปรินซ์วิลเลียมนานราว 2-3 ปีแล้ว
“ในตอนนั้นที่ปรินซ์ยังทรงศึกษาอยู่ที่เซนต์แอนดรูส์ พระองค์ทั้งคู่ทรงไปเที่ยวเกาะมัลล์เป็นการส่วนพระองค์” แหล่งข่าวในพระราชสำนักยืนยันกับเดลิเมลออนไลน์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อถึงบ้านพักวิกทอเรีย คอตเทจ ทุกคนโยนกระเป๋า และพุ่งไปซื้อเครื่องดื่มอาหารข้าวของต่างๆ ที่ร้านสหกรณ์
“ปรินซ์ทรงรูปหล่อมาก และทรงสุภาพอย่างยิ่ง” แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งเล่าถึงองค์รัชทายาทไว้อย่างนั้น
ปรินซ์สุดหล่อกับบรรดาพระสหายไปเฮกันที่ร้านขายเครื่องดื่มประจำเกาะมัลล์ และชมการถ่ายทอดแมตช์รักบี้ที่ทีมอังกฤษบุกไปโชว์พาวในนิวซีแลนด์ เสร็จก็กลับไปร้านสหกรณ์ ซื้ออาหารปิกนิก ก่อนจะไปเดินไต่เขากันทั้งคณะ
“ทั้งปรินซ์วิลเลียม และทั้งพระสหาย ต่างก็สบายๆ เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป มิได้มีการระวังพระองค์ใดๆ เลย ชาวบ้านร้านถิ่นก็เช่นกัน ไม่มีการเห่อเจ้า หรือเข้าไปรบกวนกัน พระราชวงศ์ทรงมีความผูกพันมากมายกับพื้นถิ่นชายฝั่งทะเลตะวันตกของสกอตแลนด์ ซึ่งนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ปรินซ์ทรงเลือกมาพักผ่อนที่เกาะมัลล์” พนักงานของร้านสหกรณ์เล่าไว้กับเดลิเมล์ออนไลน์
ก่อนจะถึงพระทริปสัปดาห์นี้ แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งเล่าไว้กับเดลิเมลออนไลน์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า
“ปรินซ์วิลเลียมและปรินเซสเคทมาเกาะมัลล์เมื่อหลายปีก่อน ทรงเป็นกันเองกับผู้คน เป็นเหมือนคู่รักทั่วไปที่มีความสุขกับการได้พักผ่อนตากอากาศ พระองค์และกลุ่มพระสหายสนุกกับแมตช์เล่นสาดน้ำกับชาวบ้าน แล้วหลังจากนั้น ทุกคนก็ปาร์ตีบาร์บีคิวกันต่อ
“ทั้งสองทรงวางพระองค์เหมือนสามัญชนทั่วไป ไม่มีบรรยากาศเจ้าใหญ่นายโต ไม่มีการถือยศถือศักดิ์ ชาวบ้านรู้สึกดีที่ได้รู้จักและพบเห็นพระองค์”
ปรินเซสแอนน์ทรงมาป๊ะกับปรินซ์วิลเลียมที่ร้านสหกรณ์โดยมิได้นัดหมาย พระราชวงศ์สองพระองค์มายืนรอต่อคิวจ่ายเงินปะปนกับชาวบ้าน บนเกาะนอกชายฝั่งตะวันตกของสกอตแลนด์
แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งเล่าว่า “ทั้งแก๊งมาเที่ยวพักผ่อนจากการเรียน ทุกคนนิสัยดีจิตใจดี ไม่มีการอารมณ์เสียหรือเรียกร้องสูงเอาแต่ใจ และในเมื่อปรินซ์วิลเลียมทรงวางพระองค์ธรรมดาเหลือเกิน ชาวบ้านก็รู้สึกสบายๆ กับพระองค์
“แล้วมีเรื่องขำๆ ด้วย คือเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงเสด็จมาพักผ่อนที่เกาะมัลล์ช่วงเดียวกันกับปรินซ์วิลเลียม ทั้งสองพระองค์ไปป๊ะกันที่ร้านสหกรณ์โดยมิได้นัดหมาย นั่นมันบังเอิญสุดๆ ที่สมาชิกพระราชวงศ์สองพระองค์มาที่ร้านเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน
“ปรินเซสแอนน์ทรงมากับเรือของพระองค์ และจะทรงแวะเข้าร้านสหกรณ์บ่อย บรรยากาศที่ได้เห็นคือขำๆ น่ารัก ที่ปรินซ์กับปรินเซสมายืนรอต่อคิวปะปนกับชาวเกาะเพื่อจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ปรินซ์วิลเลียมทรงประทับยืนด้านหลังปรินเซสแอนน์
“ที่สำคัญคือ ถ้าผู้ที่มีชื่อเสียงระดับสมาชิกพระราชวงศ์ไม่เรื่องมาก ผู้คนก็พลอยสบายๆ ไปด้วย คุณไม่เห็นแม้แต่ทีมรักษาความปลอดภัยแสดงตัวอยู่ตรงไหนเลย ทุกสิ่งเรียบๆ ง่ายๆ อย่างยิ่ง”
การเสด็จเยือนเกาะโบราณอันมากมายด้วยธรรมชาติงดงามเยี่ยงเกาะมัลล์ จะช่วยให้คนยุคใหม่ตระหนักถึงชีวิตดีๆ ในระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ห่างไกลที่ยังเน้นความยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อม
ปรินซ์วิลเลียมกับปรินเซสเคททรงเยี่ยมชมศูนย์ชุมชนและตลาดศิลปินกับงานศิลปะ
แล้วทรงเดินทางไปดูงานสวนครัวของชาวบ้าน ซึ่งโดดเด่นด้วยการทำฟาร์มที่เน้นความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและความเอื้อเฟื้อแก่กันและกัน
ลักษณะเด่นเหล่านี้ทำให้เกาะมัลล์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวไปเยือนหลายแสนรายโดยไม่ทำให้ชาวเกาะกลายเป็นมนุษย์หิวเงิน ไม่มีการต้มตุ๋น หรือโก่งราคา และผู้คนชาวมัลล์ยังให้ความสำคัญยิ่งยวดแก่การรักษาคุณภาพของธรรมชาติอันงดงามที่ดำรงมาแต่ดั้งเดิม
ชมพระรูป 14 ปีแห่งเทพนิยายปรินเซสแคเธอริน กับ ปรินซ์วิลเลียม
2001-2002: ทรงช่วยกันปลูกต้นรักที่ ม.เซนต์แอนดรูส์ สกอตแลนด์
แม้ว่าเรื่องราวความรักระหว่างนางสาวแคเธอริน มิดเดิลตัน กับปรินซ์วิลเลียม ที่ได้ประสบพบรักกัน ได้กลายเป็นเทพนิยายพื้นบ้านแนวจักรๆ วงศ์ๆ ไปแล้ว แต่เทพนิยายหวานรื่นชวนติดตามเรื่องนี้ก็ยังถูกเล่าซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า นักศึกษาภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลป์สองรายได้รู้จักกัน ขณะใช้ชีวิตอยู่ในหอพักนักศึกษาเซนต์ซัลวาเตอร์ส ฮอลล์ ในมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ ประเทศสกอตแลนด์
ขณะที่ เคท มิดเดิลตัน ช่วยปรินซ์วิลเลียมเลือกวิชาเมเจอร์ เรื่องราวโรมานซ์ระหว่างกันก็ต่อยอดเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเกร็ดน่ารักที่ถูกเล่าขานบ่อยเป็นพิเศษคือ ปรินซ์วิลเลียมทรงควักพระกระเป๋า 200 ปอนด์ซื้อตั๋วเก้าอี้แถวหน้าเพื่อชมแฟชันโชว์การกุศลที่จัดขึ้นในวิทยาเขต ซึ่งมีสุดสวยเพื่อนสนิทนาม แคเธอริน เดินบนแคทวอล์กในชุดสุดเซอร์ไพรส โดยปรากฏว่าเคทออกสู่เวทีในชุดกระโปรงเกาะอกยาวปิดเข่า แต่เป็นผ้าโปร่งทั้งตัว อวดให้เห็นชุดชั้นในชิ้นบนชิ้นล่างที่น่ารัก ในเวลานั้นปรินซ์ทรงตรัสกับพระสหายซี๊ปึ้กปั้กนาม เฟอร์กัส ว่า“เคทเซ็กซี่จัง”
2002: เริ่มเดทกัน ปรินซ์วิลเลียมเริ่มออกเดทกับเคท มิดเดิลตัน ในราวปี 2002 นิตยสารไบร์ดส์ดอทคอมเล่าไว้อย่างนั้น
มิถุนายน 2005: งานรับปริญญาบัตร
สี่ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก เพื่อนรักและเพื่อนรูมเมทซึ่งกลายมาเป็นพระคู่รักได้หลายปีแล้ว เข้าพิธีรับปริญญาบัตร ซึ่งมีเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พร้อมด้วยพระวรชายา คือ คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ เสด็จร่วมพิธี และหลังเสร็จพิธี เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และดัชเชสคามิลลา ตลอดจนคุณพ่อคุณแม่ของเคท มิดเดิลตัน เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองปริญญาบัตร ซึ่งปรินซ์วิลเลียมและ เคท ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ
มีนาคม 2008: ปรินซ์วิลเลียมกับเคทหวนคืนสู่สถานภาพพระคู่รักอย่างเป็นทางการ หลังแยกทางกัน 2-3 เดือนเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้า
ปมขัดแย้งในพระหทัยของปรินซ์วิลเลียม ระหว่างความรักและผูกพันที่ทรงมีให้อยู่กับเคท กับความรับผิดชอบต่อพระภารกิจว่าที่พระมหากษัตริย์ ที่ควรจะมีพระชายาเป็นสตรีสูงศักดิ์อย่างน้อยก็ระดับเลดี้จากบางราชสกุล ได้รุกเร้าสมองและหัวใจของปรินซ์ผู้ทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 ในที่สุด ปรินซ์วิลเลียมทรงมาถึงจุดแห่งการตัดสินพระทัย ยุติความสัมพันธ์และตัดขาดจาก เคท มิดเดิลตัน ในปี 2007 โดยดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
อย่างไรก็ตาม ภายในสองสามเดือนที่ยุติความสัมพันธ์ ปรินซ์สุดหล่อและพระคู่รักสุดสวยก็กลับมาคืนดีกันในเดือนมิถุนายนปีเดียวกันนั้นเลย และด้วยพระรูปที่ปรินซ์วิลเลียมกับพระคู่รักเสด็จทริปสกีที่หมู่บ้านโคลสเตอร์ส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แหล่งเล่นสกีสุดโปรดของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ในเดือนมีนาคม 2008 สาธารณชนจึงเป็นอันมั่นใจได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักแห่งอังกฤษ กลับเป็นปกติแน่นอน นิตยสารไบร์ดส์ดอทคอมรายงาน
เมษายน 2008: เคทร่วมพิธีประดับเครื่องหมายยศนายทหารอากาศของปรินซ์วิลเลียม
เคท มิดเดิลตัน เข้าร่วมพิธีประดับเครื่องหมายยศนายทหารอากาศของปรินซ์วิลเลียมในเดือนเมษายน 2008 เมื่อพระรูปนี้ปรากฏตามสื่อมวลชนทั้งปวง ประชาชนแฮปปีกันเป็นที่ยิ่ง นิตยสารไบร์ดส์ดอทคอมเล่าว่าภาพแสนสุขนี้จุดประกายให้เล่าลือกันยกใหญ่ว่า อีกไม่นานน่าจะมีการประกาศหมั้น
พฤศจิกายน 2010: สำนักพระราชวังประกาศข่าวการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2010 สาธารณชนสามารถยุติการรอคอย เมื่อสำนักพระราชวังประกาศข่าวการหมั้นหมายระหว่างปรินซ์วิลเลียมกับนางสาวแคเธอริน มิดเดิลตัน โดยมีการเชิญสื่อมวลชนมาถ่ายภาพทำข่าว และจึงปรากฏพระรูปสุดประทับใจที่เคทสวมชุดงามสง่าสีน้ำเงินมาพร้อมกับพระธำมรงค์หมั้นแซฟไฟร์บนนิ้วนางซ้าย และมีการแถลงด้วยว่าปรินซ์ทรงคุกพระชงฆ์ขอเคทเสกสมรสเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้า ขณะทั้งสองไปเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศเคนยา
นอกจากนั้น ทั้งสองได้เปิดโอกาสให้โทรทัศน์ไอทีวีนิวส์ สัมภาษณ์พิเศษ โดย ทอม แบรดบี บรรณาธิการข่าวการเมือง เจ้าชายหนุ่มหล่อและเซ็กซี่ที่สุดของโลกเล่าว่ากว่าจะคุกเข่าขอสาวเคทแต่งงาน พระองค์พกพาแหวนหมั้นราคาเกือบแสนปอนด์ของพระมารดาติดเป้ไปมานานหลายสัปดาห์ ใจก็กลัวมากว่าจะทำแหวนหาย เพราะจะต้องเดือดร้อนอย่างหนักทีเดียว
29 เมษายน 2011: พระราชพิธีเสกสมรส
แน่นอนว่าห้วงเวลาที่ทรงสร้างพระครอบครัวน่ารักอบอุ่นมาครบ 14 ปี ผ่านไปเหมือนอยู่ในความฝัน มันราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ “พระคู่รัก เคท มิดเดิลตัน” ก้าวออกจากพระราชยานยนต์โรลส์รอยซ์ เพื่อเข้าสู่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ โดยเคท มิดเดิลตัน อยู่ในชุดวิวาห์สีขาวงามหวานของอเล็กซานเดอร์ แมคควีน เพื่อจะเสกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียม และหลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธี เคท มิดเดิลตัน ก็ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เอเอฟพี เดลิเมลออนไลน์ Brides.com)