ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ออกคำสั่งเซอร์ไพรซ์ ให้กองทหารแดนหมีขาวที่กำลังสู้รบกับยูเครน หยุดยิงเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่ 8-10 พฤษภาคมนี้ เพื่อรำลึกวาระครบรอบ 80 ปีชัยชนะของสหภาพโซเวียตและเหล่าพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งนี้ตามคำแถลงของทำเนียบเครมลินในวันจันทร์ (28 เม.ย.) อย่างไรก็ตาม เคียฟตอบโต้โดยตั้งคำถามว่าทำไมไม่หยุดยิงกันตอนนี้เลย และทำเนียบขาวแถลงว่าทรัมป์ต้องการให้สงบศึกกันอย่างถาวร ไม่ใช่แค่ชั่วคราว
ในคำแถลงของทำเนียบเครมลิน แสดงความคาดหมายว่าเคียฟจะออกคำสั่งหยุดยิงทำนองเดียวกัน แต่ก็ระบุว่าเตรียมพร้อมที่จะตอบโต้หากมีการละเมิดการหยุดรบใดๆ ขึ้นมา
การหยุดยิงรวมเป็นเวลา 72 ชั่วโมงที่ ปูติน ออกคำสั่งในครั้งนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 8-9 พฤษภาคม ซึ่ง ปูติน มีกำหนดจะเป็นเจ้าภาพเชื้อเชิญบรรดาผู้นำนานาชาติ โดยในจำนวนนี้ก็รวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองซึ่งรัสเซียตระเตรียมเอาไว้อย่างใหญ่โตโอฬาร เพื่อรำลึกถึงชัยชนะที่มีเหนือนาซีเยอรมนี และต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 10 พ.ค.
อย่างไรก็ดี ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศ อันเดร ซีบาฮา ของยูเครน ตอบโต้โดยแถลงว่า หากรัสเซียต้องการสันติภาพอย่างแท้จริงแล้ว ก็ต้องหยุดยิงโดยทันที ทำไมต้องรอไปจนถึงวันที่ 8 พฤษภาคม เขายังโพสต์ข้อความทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ด้วยว่า การหยุดยิงควรที่จะ “เป็นของจริง ไม่ใช่เพียงเพื่อให้มีการเดินพาเหรดสวนสนาม”
ขณะที่ เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว แคโรไลน์ เลวิตต์ แถลงกับพวกผู้สื่อข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการเห็นการหยุดยิงอย่างถาวร อันดับแรกเลยต้องยุติการเข่นฆ่ากัน ยุติการนองเลือด ไม่ใช่แค่การหยุดยิงชั่วคราว
โฆษกผู้นี้สำทับด้วยว่า ทรัมป์กำลังรู้สึกหงุดหงิดผิดหวังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กับกับทั้ง 2 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซียหรือยูเครน
ก่อนหน้านี้ ปูตินได้เคยออกคำสั่งให้กองทหารรัสเซียยุติการสู้รบชั่วคราวทำนองเดียวกันนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว นั่นคือในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ โดยที่การหยุดยิงคราวนั้นแม้ทั้งสองฝ่ายกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่าละเมิดการพักรบกันเป็นร้อยๆ ครั้ง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าได้นำไปสู่การลดระดับการต่อสู้กันชั่วคราวจริงๆ
สำหรับท่าทีเกี่ยวกับสงครามยูเครนของทรัมป์นั้น ยังคงอยู่ในลักษณะสับสนไม่แน่ไม่นอน โดยก่อนหน้าที่ ปูติน ประกาศจะหยุดยิง 3 วันคราวนี้ ประมุขทำเนียบขาวได้ตอบคำถามของพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ (27) ว่า เขาคิดว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ พร้อมแล้วที่จะสละไครเมียให้รัสเซีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิง และสำทับว่า ระหว่างอยู่ที่เขาสนทนาเป็นเวลา 15 นาทีกับเซเลนสกี้ ที่นครวาติกัน ในวันเสาร์ (26) เขาได้คุยเกี่ยวกับอนาคตของไครเมีย ซึ่งถูกรัสเซียผนวกเป็นดินแดนของพวกเขามาตั้งแต่ปี 2014
อย่างไรก็ดี ทางด้านเซเลนสกี้นั้นยืนกรานมาตลอดว่า ไม่ยอมรับการผนวกไครเมียของรัสเซีย โดยที่จุดยืนนี้ยังคงได้รับความสนับสนุนอย่างแข็งขันจากพวกชาติพันธมิตรในยุโรปของยูเครน
ประธานาธิบดีวัย 78 ปีของอเมริกาผู้นี้โอ้อวดตั้งแต่ตอนหาเสียงว่า จะจบสงครามรัสเซีย-ยูเครนภายในวันเดียว และนับจากเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ก็พยายามผลักดันแนวทางการทูตเชิงลึกเพื่อยุติการสู้รบในยูเครน ขณะที่เคียฟและตะวันตกกลัวว่า ทรัมป์กำลังเข้าข้างมอสโก
ทว่า ช่วงไม่กี่วันมานี้ดูเหมือนทรัมป์หมดความอดทนกับ ปูติน มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่รัสเซียถล่มพื้นที่ด้านตะวันออกของยูเครนด้วยโดรนและขีปนาวุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คนและบาดเจ็บกว่าสิบคน เมื่อคืนวันเสาร์ หรือหลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯ และยูเครนหารือกันสั้นๆ ที่วาติกัน
ในวันอาทิตย์ นอกจากพูดเรื่องไครเมียแล้ว ทรัมป์ยังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ต้องการให้ปูตินหยุดยิงและลงนามข้อตกลงเพื่อยุติสงครามยูเครน
“ไม่มีเหตุผลใดๆ เลยสำหรับ ปูติน ที่กำลังยิงขีปนาวุธเข้าใส่พวกพื้นที่พลเรือน เมืองใหญ่ เมืองเล็ก ต่างๆ ในช่วงไม่กี่วันหลังๆ มานี้ มันทำให้ผมคิดว่าบางทีเขาอาจจะไม่ได้ต้องการยุติสงคราม เขาเพียงแค่หลอกล่อให้ผมเชื่อเท่านั้น” ทรัมป์โพสต์ข้อความเช่นนี้บนแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียลของเขา
ทางด้าน มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ไปพูดในรายการ “มีต เดอะ เพรสส์” ของเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีว่า คณะบริหารของทรัมป์อาจถอนตัวจากการเป็นตัวกลาง ถ้ายังไม่มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว และย้ำว่า สัปดาห์นี้จะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญสำหรับการเจรจาหยุดยิงในยูเครน ขณะที่ทรัมป์ระบุว่า จะให้เวลา 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม มอสโกออกคำแถลงระบุว่า รูบิโอได้หารือทางโทรศัพท์กับ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ เกี่ยวกับเงื่อนไขเบื้องต้นเพื่อเริ่มต้นการเจรจาสันติภาพระยะยาว
ทั้งนี้ รัสเซียยืนกรานว่า จะครอบครองดินแดนที่ยึดครองอยู่ต่อไป ซึ่งหมายถึงทั้งไครเมียและอีก 4 แคว้นในยูเครน รวมทั้งเรียกร้องให้ทำให้ยูเครนเป็นเขตปลอดทหาร และตะวันตกต้องยุติการสนับสนุนเคียฟ
นอกจากนั้น ลาฟรอฟยังให้สัมภาษณ์กับรายการเฟซ เดอะ เนชั่นของเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอสที่มีการบันทึกเทปล่วงหน้าและออกอากาศในวันอาทิตย์ โดยบอกว่า รัสเซียจะยังคงโจมตีเป้าหมายของกองทัพยูเครนต่อไป และเมื่อถูกซักถามเกี่ยวกับการโจมตีเคียฟเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีพลเรือนล้มตาย ลาฟรอฟยืนยันว่า รัสเซียโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)