ประชาชนมากกว่า 100,000 คน ไหลบ่าไปยังมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในวันศุกร์(25เม.ย.) เพื่อสักการะพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ในชั่วโมงท้ายๆก่อนกน้าพิธีพระศพที่จะมีขึ้นในวันเสาร์(26เม.ย.)
ไม่นานหลังผ่านพ้นเวลา 19.00น.(ราว 24.00น.ตามเวลาประเทศไทย) สำนักวาติกันยุติการออกอากาศทางโทรทัศน์ภาพการสักการะกระศพที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนถึงพิธีลับในการผนึกโลงพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
ตำรวจอิตาลีและตำรวจวาติกันเตรียมพร้อมสำหรับปิดแถวที่ยาวเหยียดผ่าใจกลางโบสก์ ทันทีที่ประชาชนชุดสุดท้ายเข้าทำการสักการะพระศพ
สมเด็จพระสันติปะปาฟรานซิส ซึ่งก้าวขึ้นเป็นองค์ประมุขแห่งศาสนจักรคาทอลิก มาตั้งแต่ปี 2013 สิ้นพระชนม์เมื่อวันจันทร์(21เม.ย.) ณ ที่ประทับซานตา มาร์ตา ของวาติกัน หลังมีอาการหลอดเลือดสมอง ในขณะที่กำลังพักฟื้นจากอาการป่วยโรคปอดบวมมาหลายสัปดาห์
สำนักวาติกันระบุในถ้อยแถลงว่ามีประชาชนราว 250,000 คนจากทั่วโลก ต่อแถวถวายสักการะแสดงความอาลัย นับตั้งแต่พระศพของสมเด็จพระสันตปะปาถูกอัญเชิญเข้ามาประดิษฐาน ณ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในวันพุธ(23เม.ย.)
ในบรรดาผู้ที่เดินทางมาส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้ายก็คือ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และภรรยา ผู้ซึ่งยืนเคียงข้างกันข้างๆโลงพระศพเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นฝ่ายผู้นำก็โค้งคำนับ ส่วนฝ่ายภริยาทำเครื่องหมายกางเขน
ประชาชนต่อแถวกันยาวเหยียดรอบๆจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ทอดยาวไปจนถึงถนนต่างๆที่อยู่โดยรอบตลอดทั้งวันในวันศุกร์(25เม.ย.) บางคนอดทนรอนานหลายชั่วโมง เพียงเพื่อโอกาสได้อยู่ภายในมหาวิหารไม่กี่นาที สำหรับสักการะแสดงความอาลัยพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
การประชุมใหญ่เลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ดูเหมือนว่าคงจะไม่เริ่มขึ้นก่อนวันที่ 6 พฤษภาคม
วาติกันระบุในวันศุกร์(25เม.ย.) คาดหมายว่าบรรดาผู้แทนต่างชาติกว่า 160 คนจะเข้าร่วมพิธีพระศพในวันเสาร์(26เม.ย.) ในนั้นรวมถึงพวกผู้นำโลกหลายสิบคน อาทิเช่นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และกษัตริย์ที่ครองราชย์อยู่ราวๆ 10 พระองค์
มีการคาดเดากว่าพวกผู้นำต่างชาติอาจใช้โอกาสนี้พบปะกันทางการทูต รอบนอกพิธีพระศพ เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามในยูเครน แต่ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกมาปฏิเสธในวันศุกร์(25เม.ย.) ว่า มาครง จะไม่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใดๆดังกล่าว
ทรัมป์ มีกำหนดอยู่ในกรุงโรมแค่ราวๆ 15 ชั่วโมง โดยเดินทางถึงในช่วงเย็นวันศุกร์(25เม.ย.) และเดินทางกลับทันทีหลังเสร็จสิ้นพิธี
พวกเจ้าหน้าที่เริ่มยกระดับด้านความปลอดภัยก่อนหน้าพิธี โดยมีการประจำการพลซุ่มยิงบนดาดฟ้า ส่งโดรนเฝ้ามองจากด้านบน และมียุทโธปกรณ์ทางทหารที่พร้อมสำหรับจำกัดวัตถุบินของศัตรู
ในย่านใจกลางกรุงโรม คาดหมายว่าจะมีการปิดการจราจรในวันเสาร์(26เม.ย.) เปิดทางให้ขบวนรถพระศพของสมเด็จพระสันตปะปาฟรานซิสมุ่งหน้าอย่างช้าๆไปยังมหาวิหารซานตามาเรียมายอเร ที่ทางโป๊ปฟรานซิสร้องขอให้ฝังพระศพของพระองค์ที่นั่นแทนมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ตามขนบประเพณี ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีฝูงชนจำนวนมากมารอส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้ายบริเวณ 2 ข้างทาง
(ที่มา:รอยเตอร์)
