พวกผู้นำในเคียฟกำลังเตรียมตัวสำหรับ "กรณีเลวร้ายสุด" ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจตัดขาดการสนับสนุนทั้งหมดที่วอชิงตันมอบให้แก่ยูเครน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์บิลด์ สื่อมวลชนเยอรมนีเมื่อช่วงกลางสัปาดห์ อ้างอิงแหล่งข่าวซึ่งไม่เปิดเผยชื่อภายในรัฐบาลยูเครน
มีรายงานว่า ทรัมป์ เพิ่มแรงกดดันถาโถมเข้าใส่ ยูเครน ให้ยอมรับ "ข้อเสนอสุดท้าย" ของวอชิงตันอย่างรวดเร็ว เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง นอกจากนี้แล้วผู้นำสหรัฐฯยังเตือนว่าหากการเจรจาระหว่างมอสโกกับเคียฟหยุดชะงัก ทางอเมริกาอาจถอนตัวจากบทบาทในฐานะเป็นคนกลาง
"สิ่งที่อยู่บนกระดาษและสัญญาณที่ส่งมายังเราในการเจรจานั้น เป็นสิ่งยอมรับไม่ได้" หนังสือพิมพ์บิลด์รายงาน อ้างนักการทูตรายหนึ่งของยูเครน "เรากำลังเตรียมการสำหรับกรณีเลวร้าย ซึ่งนั่นหมายความว่าสหรัฐฯยุติให้การสนับสนุน" แหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนอีกคน บอกกับสื่อมวลชนของเยอรมนี
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังผลักดันหาทางออกให้แก่ความขัดแย้ง ขณะเดียวกันก็กำลังเสาะหนข้อตกลงสกัดแร่ธาตุหายากกับยูเครน ชดเชยความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินที่วอชิงตันมอบให้แก่เคียฟระหว่างทำศึกสงครามกับรัสเซีย ทั้งนี้ ทรัมป์ เคยระงับความช่วยเหลือทางทหารและแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครนเป็นระยะเวลาสั้นๆ หลังจากเปิดศึกโต้เถียงกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวในเดือนกุมภาพันธ์
เมื่อวันพุธ(23เม.ย.) ทรัมป์เน้นย้ำว่า เซเลนสกี ซึ่งครั้งหนึ่งเขาให้คำจำกัดความว่าเป็น เผด็จการที่ไม่ยอมจัดการเลือกตั้ง" เจรจาต่อรองยากกว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก เซเลนสกี ปฏิเสธอย่างเปิดเผยต่อเงื่อนไขหลักๆในกรอบข้อตกลงสันติภาพที่เสนอโดยสหรัฐฯ พร้อมยืนกรานว่าจะไม่ยอมแม้กระทั่งพูดคุยหารือเกี่ยวกับการรับรองไครเมีย ในฐานะเป็นส่วนหนึ่้งในดินแดนของรัสเซีย อย่างเป็นทางการ
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์บิลด์ พวกเจ้าหน้าที่บางส่วนในเคียฟ แสดงความหวังว่าการที่ทรัมป์ดุด่าเซเลนสกีเป็นการส่วนตัว จะเป็นแค่กลยุทธ์กดดันผู้นำยูเครนเท่านั้น "เราหวังว่ามันจะเป็นเพียงแค่กลุทธ์ในการต่อรองของทรัมป์" และระบุเวลานี้เคียฟกำลังพยายามรื้อฟื้นการเจรจากับวอชิงตัน ไปพร้อมกับๆขอแรงหนุนหลังจากบรรดาผู้สนับสนุนยุโรป
เคียฟยังคงได้รับอาวุธตามที่รัฐบาลสหรัฐฯชุดก่อนรับปากไว้ แต่ไม่มีการอนุมัติแพ็คเกจใหม่ๆใดๆนับตั้งแต่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง ในขณะที่ เซเลนสกี ยอมรับในวันจันทร์(21เม.ย.) ว่าเสียงวิงวอนของเขาเมื่อเร็วๆนี้ สำหรับขอระบบแพทริออตและขีปนาวุธเพิ่มเติม หายเงียบไปโดยไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมา
มอสโก ยืนกรานว่าเปิดกว้างสำหรับการเจรจาสันติภาพ และนำเสนอแก่นกลางข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงที่ต้องได้รับการจัดการ ขณะเดียวกันรัสเซียคัดค้านการประจำการทางทหารนาโตใดๆในแผ่นดินยูเครน และเรียกร้องให้เคียฟรับรองเขตแดนใหม่ของรัสเซีย และละทิ้งแผนเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ทั้งนี้ มอสโก ประณามซ้ำๆต่อการที่ตะวันตกยังคงเดินหน้าป้อนอาวุธแก่ยูเครน โดยชี้ว่ามันเป็นตัวขัดขวางสันติภาพที่ยั่งยืนใดๆ
รัฐบาลรัสเซียบ่งชี้ด้วยว่าจะไม่ยอมรับการระงับความขัดแย้งแค่เพียงชั่วคราว ซึ่งรังแต่จะรื้อฟื้นความเป็นปรปักษ์ในภายหลัง โดยอ้างว่าการละเมิดต่างๆนานาของยูเครนในข้อตกลงหยุดยิงวันอีสเตอร์ และข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่มีสหรัฐฯเป็นคนกลาง ในการละเว้นโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า เคียฟ ไว้วางใจไม่ได้
(ที่มา:บิลด์/อาร์ทีนิวส์)