xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ทรัมป์เสนอแผนยกเครื่องกระทรวงการต่างประเทศมโหฬาร เล็งยุบหน่วยงานกว่า 100 แห่ง-ปลดเจ้าหน้าที่ 15%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
คณะบริหารทรัมป์เสนอแผนยกเครื่องกระทรวงการต่างประเทศครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีการยุบหน่วยงานกว่า 100 แห่ง ซึ่งรวมถึงส่วนงานเกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามและสิทธิมนุษยชน ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อให้มั่นใจ กระทรวงแห่งนี้ดำเนินการสอดคล้องกับนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน”

เอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า แผนการนี้ซึ่งแจ้งต่อรัฐสภาแล้ว จะมีการยุบหยางบงาน 132 แห่ง จากทั้งหมด 734 แห่ง โดยปลัดกระทรวงมีเวลา 30 วันในการจัดทำแผนลดเจ้าหน้าที่ 15%

แม้ยังไม่มีการเปิดเผยชัดเจนว่า จะมีเจ้าหน้าที่ถูกปลดกี่คน แต่รายงานบนสิ่งพิมพ์ออนไลน์ ฟรี เพรสส์ ที่ มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นำไปโพสต์บนเอ็กซ์ระบุว่า อาจมีการปลดเจ้าหน้าที่อีก 700 ตำแหน่งจากหน่วยงานที่ถูกปิด

คริสโตเฟอร์ แลนโด รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ ระบุในบันทึกภายในว่า คณะทำงานภายในจะรับผิดชอบการปรับโครงสร้างและการพัฒนาแผนการสำหรับแต่ละส่วนในกระทรวงภายในวันที่ 1 กรกฎาคม

การปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์ ที่ปรึกษาและนักธุรกิจพันล้าน ในการลดขนาดรัฐบาลกลางที่นำไปสู่การปลดเจ้าหน้าที่หลายพันคน

รูบิโอแถลงว่า กระทรวงการต่างประเทศในรูปแบบปัจจุบันเป็นหน่วยงานที่เทอะทะและไม่สามารถปฏิบัติภารกิจสำคัญในยุคใหม่ที่มีการแข่งขันชิงความเป็นมหาอำนาจ ซึ่งหมายถึงการแข่งขันกับจีน รวมทั้งไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ขณะที่แผนการใหม่จะพยายามให้อำนาจหน่วยงานระดับภูมิภาคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และลดสำนักงานและโครงการที่ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์หลักของประเทศ

ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทรัมป์ออกคำสั่งฝ่ายบริหารให้รูบิโอปรับปรุงหน่วยงานดูแลกิจการด้านการต่างประเทศของอเมริกา (U.S. Foreign Service) และวิธีการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้แน่ใจว่า บุคลากรทางการทูตของสหรัฐฯ ปฏิบัติภารกิจอย่างมุ่งมั่น

แผนปฏิรูปใหม่นี้ ซึ่งออกมาภายหลังการยุบองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ยูเอสเอด) ดูเหมือนเข้มข้นน้อยกว่าที่หลายคนกลัวกันหรือที่มีการเผยแพร่ภายในกระทรวงก่อนหน้านี้

กระนั้น เกร็ก มีคส์ สมาชิกคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ก็แถลงโจมตีว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ไม่ได้ช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศมีความคล่องตัวขึ้นแต่อย่างใด แต่กลับเป็นการทำลายซอฟต์พาวเวอร์ของอเมริกาที่รวมถึงการปกป้องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยทั่วโลก

การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ที่สุดในแผนการนี้คือ การยุบแผนกความปลอดภัยพลเรือน ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน ที่รูบิโอกล่าวหาว่า เบี่ยงเบนจากภารกิจสำคัญของประเทศโดยการจัดหาสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้แก่นักเคลื่อนไหวเพื่อนิยามความหมายของ “สิทธิมนุษยชน” และ “ประชาธิปไตย” ใหม่ รวมทั้งนำเงินภาษีของประชาชนไปสนับสนุนโครงการของตนเอง แม้ว่าขัดแย้งโดยตรงกับเป้าหมายของรัฐมนตรีต่างประเทศ ประธานาธิบดี และประชาชนอเมริกันก็ตาม

รูบิโอยังกล่าวหาสำนักงานประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และแรงงานว่า ถูกนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายใช้เป็นที่มั่นในการแก้แค้นผู้นำที่ต่อต้านกระแสการตื่นรู้ในโปแลนด์ ฮังการี และบราซิล รวมทั้งแปลงความเกลียดชังต่ออิสราเอลเป็นนโยบายรูปธรรมในการคว่ำบาตรทางการค้า ซึ่งหมายถึงกรณีที่หน่วยงานนี้พยายามผลักดันให้จำกัดการขายอาวุธให้อิสราเอลโดยใช้ข้ออ้างด้านสิทธิมนุษยชน

อีกหนึ่งในหน่วยงานที่ถูกยุบคือ สำนักงานบริหารงานยุติธรรมทางอาญา (Office of Global Criminal Justice) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมเลวร้ายทั่วโลก

สัปดาห์ที่แล้ว รูบิโอยังสั่งปิดสำนักงานต่อต้านการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในต่างประเทศ โดยกล่าวหาว่า ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของฝ่ายอนุรักษนิยม และเมื่อเดือนมีนาคม กระทรวงการต่างประเทศยังเตรียมการปิดสำนักงานกงสุลในต่างแดนกือบ 10 แห่ง

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น