xs
xsm
sm
md
lg

อินเดียระส่ำ! มือปืนกราดยิงนักท่องเที่ยวดับ 26 บาดเจ็บ 17 ใน ‘แคชเมียร์’ นายกฯ ‘โมดี’ รีบบินด่วนกลับจากซาอุฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตำรวจอินเดียแถลงยืนยันยอดผู้เสียชีวิต 26 คน บาดเจ็บอีก 17 คนจากเหตุกลุ่มติดอาวุธยิงใส่นักท่องเที่ยวในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับอินเดียในรอบเกือบ 20 ปี

เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร (22 เม.ย.) ที่บริเวณทุ่งหญ้าแห่งหนึ่งในจุดชมธรรมชาติพาฮัลกัม (Pahalgam) แถบเทือกเขาหิมาลัย โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวอินเดีย 25 คน และพลเมืองเนปาลอีก 1 คน

เหตุการณ์นี้ยังถือเป็นการสังหารพลเรือนครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เหตุกราดยิงที่มุมไบเมื่อปี 2008 และทำลายบรรยากาศความสงบสุขในแคชเมียร์ ซึ่งการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาบูมอีกครั้งหลังจากที่เหตุความไม่สงบซาลงไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดียได้หั่นกำหนดการเยือนซาอุดีอาระเบียให้สั้นลง และเดินทางกลับถึงนิวเดลีในเช้าวันนี้ (22) ขณะที่ นิรมาลา สิธารามัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอินเดีย ก็ลดกำหนดการเยือนสหรัฐฯ และเปรูลงเช่นเดียวกัน “เพื่อกลับมาอยู่เคียงข้างประชาชนในช่วงเวลาอันเศร้าโศกนี้” ตามถ้อยแถลงของกระทรวง

โมดี ได้หารือกับที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ที่สนามบิน และได้มีการเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีความมั่นคงพิเศษในเวลา 12.30 น. GMT

เหตุโจมตีครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นสัญญาณความล้มเหลวของ โมดี และพรรคชาตินิยมฮินดูภารติยชนตะ (BJP) ซึ่งที่ผ่านมาพยายามชูความสำเร็จครั้งใหญ่ในการเพิกถอนสถานะเขตกึ่งปกครองตนเองของจัมมูและแคชเมียร์ และนำสันติสุขและการพัฒนาเข้าไปสู่ดินแดนที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม

กลุ่มต่อต้านแห่งแคชเมียร์ (Kashmir Resistance) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีครั้งนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยแสดงความไม่พอใจที่มี “คนนอก” กว่า 85,000 คนอพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในจัมมูและแคชเมียร์ จนทำให้เกิด “ความเปลี่ยนแปลงทางประชากร”

ในถ้อยแถลงล่าสุดวันนี้ (23) ทางกลุ่มประกาศว่า “บุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายไม่ใช่นักท่องเที่ยวทั่วไป แต่เป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงของอินเดีย”

“นี่ไม่ใช่กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่เป็นคณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานลับที่เข้ามาทำวิจัย” กลุ่มติดอาวุธดังกล่าวระบุ และเสริมว่าการสังหารครั้งนี้ “ถือเป็นการเตือนไม่ใช่เฉพาะต่อนิวเดลีเท่านั้น แต่รวมถึงทุกฝ่ายที่สนับสนุนยุทธศาสตร์อันก่อให้เกิดคำถามของอินเดีย”

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงหลายร้อยนายถูกส่งเข้าไปยังพาฮัลกัมทันทีหลังเกิดเหตุโจมตีขึ้น และมีปฏิบัติการตรวจค้นครั้งใหญ่ในพื้นที่ป่าแถบนั้น ตามที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคง 2 คนให้ข้อมูลกับรอยเตอร์

ชาวบ้านราว 100 คนที่ต้องสงสัยว่าเคยให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในอดีตก็ถูกเรียกตัวไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจด้วย

หน่วยงานความมั่นคงอินเดียระบุว่า Kashmir Resistance เป็นกองกำลังในสังกัดขององค์กรติดอาวุธในปากีสถานอย่าง Lashkar-e-Taiba และ Hizbul Mujahideen ในขณะที่รัฐบาลปากีสถานอ้างว่า พวกเขาเพียงแต่ให้กำลังใจและการสนับสนุนด้านการทูตแก่กลุ่มก่อความไม่สงบในแคชเมียร์เท่านั้น

“เราวิตกกังวลที่มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต” ชาฟกัต อาลี ข่าน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศปากีสถานระบุในถ้อยแถลง “เราขอแสดงความเสียใจไปยังบุคคลใกล้ชิดของผู้เสียชีวิต และขอให้ผู้ที่บาดเจ็บทุกคนหายดีโดยเร็ว”


ในวันนี้ (23) หน่วยงานท้องถิ่นมากกว่า 10 แห่งในจัมมูและแคชเมียร์ได้ประกาศปิดทำการเพื่อประท้วงเหตุการณ์สังหารนักท่องเที่ยวซึ่งเข้ามาช่วยเพิ่มเม็ดเงินให้กับระบบเศรษฐกิจในท้องถิ่น ขณะที่โรงเรียนหลายแห่งก็หยุดการเรียนการสอน 1 วันเพื่อแสดงออกถึงการประท้วงเช่นกัน

สายการบินต่างๆ ได้เพิ่มเที่ยวบินจากเมืองศรีนคร (Srinagar) ซึ่งเป็นเมืองหลวงฤดูร้อนของจัมมูและแคชเมียร์ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่หวาดกลัวและต้องการเดินทางออกจากพื้นที่

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า ทางหลวงสายหลักที่เชื่อมศรีนครกับส่วนอื่นๆ ของอินเดียได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกหนัก และถูกปิดซ่อมมานานหลายปีแล้ว ทำให้ความต้องการเที่ยวบินเพิ่มสูงขึ้นไปอีก

เหตุความไม่สงบถือเป็นปัญหาเรื้อรังในดินแดนแคชเมียร์ พื้นที่พิพาทระหว่างอินเดียกับปากีสถาน นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธเริ่มก่อความไม่สงบต่อต้านอินเดียในปี 1989 ซึ่งทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้วนับหมื่นคน แม้สถานการณ์จะเริ่มสงบลงไปบ้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ตาม

รัฐบาลอินเดียประกาศเพิกถอนสถานะพิเศษของแคชเมียร์ในปี 2019 และแบ่งพื้นที่รัฐแห่งนี้ออกเป็นดินแดนสหภาพ 2 แห่ง ได้แก่ จัมมูและแคชเมียร์ และลาดักห์

ความเคลื่อนไหวนี้ส่งผลให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถให้สิทธิแก่บุคคลภายนอกในการเข้ามาอยู่อาศัย ทำงาน และซื้อที่ดินในดินแดนแถบนี้ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยิ่งบ่อนทำลายความสัมพันธ์กับปากีสถานซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนแถบนี้ด้วย

ทั้งนี้ เหตุโจมตีนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยครั้งรุนแรงล่าสุดเกิดเมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2024 เมื่อกลุ่มติดอาวุธได้บุกโจมตีรถบัสผู้แสวงบุญชาวฮินดูจนทำให้รถร่วงตกลงไปในเหวลึก มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 9 คน บาดเจ็บอีก 33 คน

ที่มา: รอยเตอร์









กำลังโหลดความคิดเห็น