วาติกันถวายความอาลัย “โป๊ปฟรานซิส” ในหีบพระศพแบบเปิดในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เปิดสาเหตุสิ้นพระชนม์ “โรคสโตรก”

เอเจนซีส์/เอเอฟพี – วาติกันวันนี้(22 เม.ย) เปิดเผยภาพแรกของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสในหีบพระศพแบบเปิดตั้งประดิษฐานกลางมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ท่ามกลางความอาลัยจากทั่วโลกรวม ทะไล ลามา แห่งทิเบต เหล่าสมาชิกราชวงศ์จากทั่วโลกรวมถึงผู้นำตั้งแต่ ทรัมป์ สตาร์เมอร์ มาครง และเซเลนสกี ประกาศบินร่วมพิธีพระศพวันเสาร์(26 เม.ย)เว้นประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เผยเบื้องลึกสาเหตุสิ้นพระชนม์จากสโตรกและนำมาสู่พระหทัยวาย

เดอะซันของอังกฤษรายงานวันนี้(22 เม.ย)ว่า วาติกันในวันอังคาร(22) เปิดเผยภาพแรกของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสสู่สาธารณะหลังข่าวการสิ้นพระชนม์เผยแพร่ออกไปในวันก่อนหน้า

พระศพถูกบรรจุไว้หีบพระศพมาตั้งแต่เมื่อคืนในโบสถ์แห่งซานตา มาร์ธา( Chapel of Santa Marta) และในเวลานี้หีบพระศพถูกเคลื่อนย้ายมาประดิษฐานภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์(St. Peter's Basilica)เพื่อให้สาธารณะเข้ามาถวายความอาลัยโป๊ปฟรานซิส นักบุญจากอาร์เจนไตน์ต่อผู้ยากไร้และผู้ลี้ภัยทั่วโลก

สำนักข่าววาติกันนิวส์รายงานว่า ในพระสารสุดท้ายวันอีสเตอร์ โป๊ปฟรานซิสทรงส่งข้อความเรียกร้องสันติภาพทั่วโลก ทรงสวดภาวนาให้กาซา ยูเครน และความขัดแย้งในเมียนมาร์ รวมถึงบรรดานักโทษต่างๆ

“ความรักสามารถเอาชนะเหนือความเกลียดชัง แสงสว่างเอาชนะความมืดมิด และความสัจจริงมีชัยต่อสิ่งเป็นเท็จทั้งหลาย การให้อภัยมีชัยเหนือการแก้แค้น”

และพระองค์ยังทรงตรัสไปยังทั่วโลกต่อว่า “ปิศาจความชั่วร้ายไม่ได้หายไปจากประวัติศาสตร์ มันยังคงวนเวียนอยู่และอยู่ในสถานะของความได้เปรียบ แต่ทว่ามันไม่ได้มีอำนาจเหนือเหล่าผู้คนที่ยอมรับพระผู้เป็นเจ้าในวัน(อีสเตอร์)นี้”

และเสริมต่อว่า “ข้าพเจ้าขอวอนซ้ำอีกครั้ง” พระองค์ตรัสว่า “ต่อสำหรับการหยุดยิงทันทีในเขตฉนวนกาซา สำหรับการปล่อยตัวประกันทั้งหลาย และการเข้าถึงความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม”

สำนักข่าววาติกันรายงานว่า ในพระสารสุดท้ายโป๊ปยังคงเป็นอีกครั้งที่ออกมาวิงวอนต่อประชาคมโลกในการลงมือและร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้คนที่กำลังอดอาหารที่จะนำไปสู่สันติภาพแห่งอนาคต”

และสำหรับยูเครน ในพระสารระบุว่า “ยูเครนนั้นแตกสลายจากสาเหตุของสงคราม” พร้อมกันนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงได้ยกของขวัญแห่งสันติภาพจากพระเยซูเจ้าที่ทรงฟื้นกลับคืนในวันอีสเตอร์ โป๊ปตรัสว่า “ขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง” โดยเสริมว่า “ยังคงต้องมีความพยายามเพื่อมุ่งไปสู่ความยุติธรรมและสันติภาพที่ถาวร”

และสำหรับเมียนมาร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเกิดสงครามกลางเมืองและแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรง พระสารครั้งสุดท้ายชี้ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงตรัสเรียกร้องให้เกิดการหยุดยิงโดยทรงชี้ว่า “การประกาศการหยุดยิง” ที่พระองค์ทรงตรัสว่า “จะเป็นสัญญาณแห่งความหวังสำหรับเมียนมาร์ทั้งปวง”

เดอะซันรายงานว่า เหล่าคณะพระคาร์ดินัลในวาติกันประกาศข่าววันพิธีฝังพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะเกิดขึ้นในเช้าวันเสาร์(26)เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของวันนั้น

นอกจากนี้ยังสำนักวาติกันยังได้เปิดเผยคำสั่งสุดท้ายของพระองค์ในสถานที่ฝังพระศพ ขอให้พระศพพระองค์ถูกฝังไว้ในชั้นใต้ดินภายในมหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร (Santa Maria Maggiore) ในกรุงโรม อิตาลี

เอเอฟพีรายงานว่า ขณะที่ผู้นำทั่วโลกต่างออกมายกย่องสรรญเสริญนั้นรวมไปถึง ทะไลลามะ ผู้นำแห่งจิตวิญญาณทิเบตที่เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพของชาวพุทธและโลกวัย 90 พรรษา

แถลงการณ์ออกมาในตอนหนึ่งได้กล่าวยกย่องพระประมุขแห่งโฮลีซีว่า  “สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงอุทิศตนเพื่อรับใช้ผู้อื่น..เป็นการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องจากการปฎิบัติของพระองค์ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตสมถะเรียบง่ายแต่เป็นชีวิตที่มีความหมาย”

เดอะซันรายงานว่า ป้ายสลักหลุมพระศพจะสลักคำเดียวว่า “ฟรานซิสคัส” (Franciscus)

สาเหตุการสิ้นพระชนม์นี้พบว่า news.com.au ของออสเตรเลียรายงานว่าเกิดมาจากโรคสโตรกและทำให้เกิดพระหทัยวายหลังจากนั้น

สื่อออสเตรเลียรายงานโดยอ้าง Corriere della Serra ที่รายงานว่า โป๊ปตื่นจากบรรทมหลังนาฬิกาปลุกดังในเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์(21) ก่อนที่จะทรงรู้สึกประชวรในเวลา 07.00 น. และทรงสิ้นพระชนม์จากอาการสโตรกในอีก 35 นาทีหลังจากนั้น

ใบมรณะบัตรของพระองค์ระบุว่า โป๊ปฟรานซิสสิ้นพระชนม์ภายในที่ประทับในที่พักทางการ ซานตา มาร์ธา (Santa Marta) ในกรุงวาติกัน

พระองค์สิ้นพระชนม์จากสาเหตุโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันและเข้าสู่ภาวะโคม่าก่อนที่จะเกิดพระทัยล้มเหลวหรือหัวใจวายเฉียบพลัน

บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปนและสมเด็จพระราชินีเลติเซียจะเสด็จพระราชดำเนินร่วมพิธีพระศพในวันเสาร์(26)ร่วมผู้นำทั่วโลก สำนักพระราชวังสเปนแถลงตามรายงานอ้างอิงจากเอเอฟพี

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ก่อนหน้าแถลงประกาศร่วมพิธีก่อนหมายกำหนดการพิธีฝังจากวาติกันจะกำหนด

หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ ประกาศจะเดินทางมาร่วมพิธีฝังพระศพโป๊ปฟรานซิส

แหล่งข่าวภายในเบอร์ลินเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า นายกรัฐมนตรีเยอรมัน โอลาฟ ชอลซ์ นั้นคาดจะเดินทางร่วมพิธีพร้อมผู้นำโลกอื่นๆ

บีบีซีของอังกฤษชี้ว่า นอกจากนี้สำนักงานประธานคณะกรรมาธิการยุโรป EU อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ได้ยืนยันการเดินทางร่วมพิธีศพ

และคาดว่าประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี จะเข้าร่วมปรากฎตัวในพิธีสำคัญระดับโลกครั้งนี้

แต่อย่างไรก็ตาม อ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯรายงาน เครมลินร่อนแถลงการณ์ยืนยัน ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ไม่มีแผนที่จะเดินทางมาอิตาลีเพื่อร่วมพิธีพระศพโป๊ปฟรานซิสวันเสาร์(26)ที่จะถึง

“ไม่ ท่านประธานาธิบดีไม่มีแผนเช่นนั้น” โฆษกเครมลิน ดมิตรี เพสคอฟ แถลงต่อนักข่าววันนี้(22)

CNN ชี้ว่า อิตาลีเป็นหนึ่งในชาติภาคีสมาชิกศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ที่ซึ่งในปี 2023 ได้ออกหมายจับประธานาธิบดีปูตินจากสงครามยูเครน

บีบีซีรายงานว่า นอกจากนี้ผู้นำในเหล่าแดนละตินอเมริกาต่างตบเท้าเข้าร่วมพิธีฝังพระศพอย่างพร้อมเพียงรวมถึงประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ฆาบิเอร์ มิเลย์ (Javier Milei) ซึ่งอาร์เจนตินาเป็นบ้านเกิดของโป๊ปฟรานซิส