xs
xsm
sm
md
lg

อเมริกามีหนาว! ปักกิ่งซุ่มทดสอบ “ระเบิดไฮโดรเจน” ร้อนสว่างวาบอุณหภูมิสูงเกิน “1,000 C” เทียบชั้นมิสไซล์ไฮเปอร์โซนิกโอเรชนิคของปูติน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – นักวิจัยจีนประสบความสำเร็จในการสร้างระเบิดไฮโดรเจนที่นอกจากจะทำให้เกิดช็อกเวฟแล้วยังสามารถทำให้เกิดอุณหภูมิสูงเกิน 1,000 องศาเซลเซียสได้นานกว่า 2 วินาทีและเกิดระเบิดนานกว่าระเบิด TNT ทั่วไปถึง 15 เท่ากลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์ทางการทหารปักกิ่งใช้จัดการโดรน ทำลายรถถัง ในยุทธวิธีรบในเมืองสงครามบุกไต้หวันในอนาคต

Straigt Arrow News ของสหรัฐฯรายงานวานนี้(21 เม.ย)ว่า ระเบิดไฮโดรเจนนี้ถูกพัฒนาโดยสถาบันวิจัย 705(705 Research Institute)ภายใต้บริษัทต่อเรือรัฐจีน CSSC (China State Shipbuilding Corporation) ที่มีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ

โดยอ้างอิงจากเซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกงพบว่า ทีมนักวิจัยโดยมี Wang Xuefeng นักวิทยาศาสตร์ CSSC ที่เป็นผู้นำทีมกล่าวไว้ในผลงานที่ถูกตีพิมพ์ว่า ทางทีมประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากสามารถสร้างระเบิดลูกไฟอุณหภูมิสูงเกิน 1,000 องศาเซลเซียสได้ยาวนานกว่า 2 วินาทีและแรงระเบิดยาวนานกว่าระเบิด TNT ถึง 15 เท่า

ระเบิดไฮโดรเจนกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์ทางการทหารของจีนที่ไม่ได้ใช้วัสดุทางนิวเคลียร์ร่วมจึงยังไม่ละเมิดข้อตกลงทางนิวเคลียร์ระหว่างประเทศและไม่จะโดนตรวจจับหรือกำกับแต่อย่างใดหากมีการใช้ขึ้นมา

อย่างไรก็ตามอ้างอิงจากทีมนักวิจัยจีนพบว่า ระเบิดไฮโดรเจนที่พัฒนานี้ใช้แมกนีเซียมไฮไดรด์ (magnesium hydride) ซึ่งเป็นวัสดุสถานะของแข็งและเก็บไฮโดรเจน

เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานว่า เมื่อต้นปีนี้ จีนเพิ่งเปิดโรงงานผลิตแมกนีเซียมไฮไดรด์ขึ้นที่มณฑลมณฑลฉ่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งจะมีศักยภาพผลิตได้ถึง 150 ตัน/ปี

ตามการทดสอบของทีมวิจัยจีนพบว่า และเมื่อมีการจุดขึ้นมาด้วยการระเบิดแบบทั่วไปมันจะแตกตัวกลายชิ้นส่วนขนาดเล็กมากและปล่อยก๊าซไฮโดรเจนออกมาที่ทำให้เกิดการจุดประกายและกลายเป็นลูกไฟขึ้น

สื่อสหรัฐฯที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการทหารและเทคโนโลยีชี้ว่า ระเบิดไฮโดรเจนนี้มีลักษณะคล้ายอาวุธปล่อยกระแสความร้อนเพื่อการทำลายล้างที่รู้จักในชื่อ thermobaric weapon

ผู้เชี่ยวชาญนักวิเคราะห์จีนกล่าวว่า ระเบิดไฮโดรเจนใช้จัดการโดรน ทำลายรถถัง และปิดทางเข้าโซนยุทธศาสตร์สำคัญ โดยระเบิดไฮโดรเจนที่ว่านี้ยังสามารถปล่อยคลื่นช็อกเวฟระดับอ่อนออกมาได้

และการที่อาวุธสามารถปล่อยความร้อนอุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียสได้นั้นจะส่งผลดีต่อสมรภูมิรบในเมือง หรือ urban warfare และอาจรวมไปถึงการบุกโจมตีป้อมค่ายที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา

เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ชี้ว่า ทีมนักวิจัยจีนตีพิมพ์ผลงานไว้ในวารสารทางวิชาการ Journal of Projectiles, Rockets, Missiles and Guidance (弹箭与制导学报)

ทั้งนี้มีนักวิเคราะห์บางส่วนได้แสดงความเห็นต่อเอเชียไทม์สว่า ระเบิดไฮโดรเจนอาจสามารถถูกใช้ในความขัดแย้งกับ “ไต้หวัน” ได้ในอนาคตในบทบาทของการใช้เพื่อข่มขวัญทางจิตวิทยาหรือทางยุทธวิธี

เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพในการใช้อาวุธประเภทความร้อนของรัสเซีย เป็นต้นว่า มิสไซล์ไฮเปอร์โซนิกโอเรชนิค( Oreshnik) ที่ถูกใช้ในการโจมตียูเครนซึ่งมีอานุภาพของมิสไซล์นี้นอกจากมีความเร็วเหนือเสียงระดับ 10 Mach 1 หรือมีความเร็วราว 2.5 ก.ม -3 กม / วินาที และยังสามารถสร้างความร้อนได้ราวกับอุณหภูมิผิวหน้าของดวงอาทิตย์หรือราว 4,000 องศาเซลเซียสที่สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลกในปีที่ผ่านมา

เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานชี้ว่า สำหรับสถาบันวิจัย 705 เป็นสถาบันหลักในการพัฒนาระบบอาวุธใต้น้ำของปักกิ่ง

ทีมนักวิจัยกล่าวในผลงานตีพิมพ์อ้างว่า ระเบิดหนัก 2 ก.ก สามารถทำให้เกิดลูกไฟความร้อนเกิน 1,000 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานกว่า 2 วินาที และยาวนานกว่า 15 เท่าเมื่อเทียบกับระเบิด TNT โดยที่ไม่มีการใช้วัสดุนิวเคลียร์ใดๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น