ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี(17เม.ย.) ระบุเขาไม่กล่าวโทษประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนอีกแล้ว จากที่เคยกล่าวหาว่าเป็นต้อตอการรุกรานของรัสเซีย อย่างไรก็ตามยังคงวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำเคียฟโปรตะวันตกรายนี้ ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจาก เซเลนสกี เปิดเผยว่ายูเครนต้องการซื้อระบบขีปนาวุธแพทริออตจากอเมริกาอีกอย่างน้อย 10 หน่วย
ทรัมป์ เคยกล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ายูเครนเป็นคนเริ่มสงคราม และในสัปดาห์หน้า กล่าวโทษ เซเลนสกี ว่าต้องรับผิดชอบต่อหลายล้านชีวิตที่สูญเสียไปในสงคราม "ผมไม่ได้ให้ เซเลนสกี รับผิดชอบ แต่ผมไม่ปลาบปลื้มเท่าไหร่กับข้อเท็จจริงที่สงครามเริ่มขึ้น" ทรัมป์ ระบุในทำเนียบขาว เคียงข้าง จอร์เจีน เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลีที่เดินทางมาเยือน "ผมไม่ได้โทษเขา แต่ผมไม่ได้บอกว่าเขาทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เข้าใจไหม ผมไม่ชอบใจเท่าไหร่"
ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นสัปดาห์ เซเลนสกี เชิญ ทรัมป์ เดินทางเยือนยูเครน เพื่อดูสภาพการถูกทำลายล้างด้วยตาของตนเอง คำเชิญครั้งนี้มีขึ้นตามหลังทั้ง 2 ฝ่าย เปิดศึกโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนต่อหน้าสื่อมวลชน ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
นอกเหนือจากกลับลำไม่กล่าวโทษเซเลนสกีแล้ว ทรัมป์ ยังระบุเพิ่มเติมในวันพฤหัสบดี(17เม.ย.) ว่าอาจบรรลุข้อตกลงกับยูเครน ในการสกัดแร่ธาตุยากที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ในสัปดาห์หน้า
ที่ผ่านมา เคียฟและวอชิงตัน เคยใกล้เคียงการลงนามในข้อตกลงหนึ่งๆเกี่ยวกับการเข้าถึงทรัพยากรแร่หายากของยูเครน จนกระทั่งเกิดศึกวิวาทะระหว่าง ทรัมป์ กับ เซเลนสกี ในเดือนกุมภาพันธ์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงหยุดชะงักเป็นการชั่วคราว
"เรามีข้อตกลงแร่หนึ่งๆ ซึ่งผมเดาว่าจะมีการลงนามในวันพฤหัสบดีหน้า อย่างเร็วที่สุด และผมหวังว่ามันจะเป็นไปตามข้อตกลง ดังนั้นเราจะได้เห็นกัน แต่เรามีข้อตกลงในเรื่องนั้น" ทรัมป์กล่าว
สอดคล้องกับคำพูดของทรัมป์ ยูเครนและสหัฐฯ ในวันพฤหัสบดี(17เม.ย.) ได้ลงนาม "ในบันทึกแห่งเจตจำนง" ในการเดินหน้าสู่การหล่อหลอมข้อตกลงที่เปิดทางให้อเมริกาเข้าถึงทรัพยากรทางธรรมชาติและแร่ธาตสำคัญๆของยูเครน
"เรายินดีที่จะแถลงเกี่ยวกับการลงนามกับคู่หูอเมริกาของเรา ในบันทึกแห่งเจตจำนง ซึ่งจะเปิดทางสำหรับข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและจัดตั้งกองทุนการลงทุนสำหรับฟื้นฟูยูเครน" จากการเปิดเผยของยูเลีย วีรีเดนโก รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ของยูเครน
ทรัมป์ ต้องการข้อตกลง ที่ออกแบบมาเพื่อให้สหรัฐฯได้สิทธิในผลกำไรจากการทำเหมืองทรัพยากรและเหมืองแร่ธาตุหายากของยูเครน ชดเชยเงินช่วยเหลือที่วอชิงตันมอบให้แก่ยูเครน ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน สำหรับทำศึกสงครามกับรัสเซีย
วีรีเดนโก ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของบันทึกแห่งเจตจำนง แต่บอกว่าจะเดินหน้าทำงานสู่การได้มาซึ่งข้อตกลงขั้นสุดท้ายต่อไป ในขณะที่ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ บอกกับเอเอฟพี ตั้งเป้าบรรลุข้อตกลงกันในวันที่ 26 เมษายน
ความคืบหน้าในการเจรจาและการกลับลำไม่กล่าวโทษเซเลนสกีของทรัมป์ มีขึ้นในขณะที่ผู้นำยูเครนเปิดเผยในวันพฤหัสบดี(17เม.ย.) ว่าเคียฟต้องการซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธ "แพทริออต" จากสหัฐฯ อีกอย่างน้อย 10 หน่วย เพื่อเป็นโล่ป้องกันการโจมตีของรัสเซีย
เซเลนสกี เผยว่าเขาได้ยื่นคำขอดังกล่าวไปยังประธานาธิบดีทรัมป์ และทางผู้นำสหรัฐฯรับปากว่าจะทำงานในเรื่องนี้ "ยูเครนพร้อมซื้อระบบแพทริออตอย่างน้อย 10 หน่วย ผมบอกกับประธานาธิบดีทรัมป์ ว่านี่คือขั้นต่ำ ระหว่างที่เราพูดคุยทางโทรศัพท์" ประธานาธิบดียูเครนกล่าวระหว่างแถลงข่าวในกรุงเคียฟ
"เขาบอกกับผมว่าอเมริกาจะทำงานในเรื่องนี้ จนถึงตอนนี้ ผมยังไม่มีข้อมูลอื่นๆ" เซเลนสกีกล่าว
ที่ผ่านมา เคียฟส่งเสียงเรียกร้องไปยังบรรดาพันธมิตรเป็นประจำ ให้มอบการป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม เตือนว่าอาจเผชิญกับภาวะขาดแคลน ในขณะที่พวกเขาต้องสู้รบรับมือการโจมตีจากรัสเซียในทุกๆวัน
แพทริออตถือเป็นระบบอาวุธเดี่ยวที่แพงที่สุดที่สหรัฐฯจัดหาให้แก่ยูเครน โดยมันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ราวๆ 1,100 ล้านดอลลาร์ต่อระบบ แบ่งเป็นมูลค่าของตัวระบบ 400 ล้านดอลลาร์ และ 690 ล้านดอลลาร์ สำหรับขีปนาวุธ
(ที่มา:เอเอฟพี)