กระทรวงพาณิชย์จีนย้ำในวันพฤหัสบดี (17 เม.ย.) เลิกสนใจ “เกมตัวเลขไร้ความหมาย”ของสหรัฐฯ ตอบโต้ทำเนียบขาวที่เผยแพร่เอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งระบุว่าภาษีศุลกากรใหม่ที่สหรับฯเรียกเก็บจากสินค้าเข้าของแดนมังกรนั้น อัตราสูงสุดอยู่ที่ 245% แล้ว ขณะเดียวกัน ปักกิ่งก็เรียกร้องวอชิงตันให้ยุติ “การออกแรงบีบคั้นอย่างสุดโต่ง” ใส่ตนเอง พร้อมเรียกร้องให้มีความเคารพกัน ถ้าหากต้องการจะพูดคุยเจรจาการค้าใดๆ กันจริงๆ
เมื่อคืนวันอังคาร (15) ทำเนียบขาวได้เผยแพร่เอกสารข้อเท็จจริง (Fact Sheet) ที่มีการแจกแจงว่า เนื่องจากจีนมีการตอบโต้เอาคืนมาตรการของสหรัฐฯ ทำให้เวลานี้จีนเผชิญกับการถูกจัดเก็บภาษีศุลกากรอัตราสูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าสู่สหรัฐฯ
เอกสารข้อเท็จจริงของทำเนียบขาวนี้แจกแจงว่า อัตรารวม 245% นี้ มาจากภาษีศุลกากรตอบโต้รอบล่าสุด 125%, ภาษีศุลกากรเพื่อจัดการวิกฤตเฟนทานิล 20% และภาษีศุลกากรระหว่าง 7.5-100% สำหรับสินค้าบางรายการเพื่อแก้ไขแนวทางปฏิบัติด้านการค้าที่ไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวระบุว่า เอกสารข้อเท็จจริงนี้เป็นเอกสารประกอบเพื่ออธิบายเพิ่มเติมการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารวันเดียวกันนี้ ให้รัฐมนตรีพาณิชย์ โฮเวิร์ด ลุตนิก เปิดการสอบสวนตามอำนาจในมาตรา 232 ของรัฐบัญญัติการขยายการค้าปี 1962 ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการขึ้นภาษีศุลกากรแร่ธาตุสำคัญ แร่ธาตุหายาก (แรร์เอิร์ธ) และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแร่ธาตุเหล่านี้ เช่น สมาร์ทโฟน โดยที่สินค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วสหรัฐฯนำเข้าจากจีน
ทางด้านโฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน เหอ หย่งเฉียน ได้กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (17) ระหว่างการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ตามปกติของกระทรวง โดยย้ำสิ่งที่จีนเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า การขึ้นภาษีศุลกากรของอเมริกาเป็นการกระทำแบบไร้เหตุผล และจีนจะไม่ใส่ใจเกมตัวเลขอัตราภาษีที่ปราศจากความหมายนี้อีกต่อไป พร้อมกันนั้นก็เตือนว่า ปักกิ่งจะสู้จนถึงที่สุด หากวอชิงตันยังยืนกรานที่จะทำลายสิทธิและผลประโยชน์ของจีนต่อไป
โฆษกผู้นี้เสริมว่า กระทรวงพาณิชย์จีนยังคงติดต่อกับกระทรวงพาณิชย์อเมริกาในระดับคณะทำงาน และจีนยังคงเปิดกว้างสำหรับการหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการค้ากับอเมริกา แต่สำทับว่า อเมริกาต้องเป็นฝ่ายขอเจรจากับจีน เนื่องจากเป็นฝ่ายเริ่มบังคับใช้ภาษีตอบโต้ก่อน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับทุกประเทศเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะสั่งชะลอ “ภาษีศุลกากรตอบโต้” สำหรับหลายสิบประเทศ แต่ยังคงมาตรการลงโทษทางภาษีกับจีน
ด้านปักกิ่งตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอเมริกาเป็น 125% และไม่สนใจที่จะต่อรองกับวอชิงตัน สวนทางกับหลายประเทศที่เริ่มหาหนทางเจรจาข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับอเมริกา
ทรัมป์ออกมาพูดอยู่หลายหนว่า ยังต้องการเจรจาทำความตกลงเรื่องการค้ากับจีน แต่ปักกิ่งต้องเป็นฝ่ายขอเจรจาก่อน โดยล่าสุดคือในวันอังคาร (15) แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงย้ำว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ เชื่อว่า จีนเป็นฝ่ายเดือดร้อนมากกว่า และต้องเป็นคนเริ่มต้นขอทำข้อตกลง
"เวลานี้มันขึ้นอยู่กับฝ่ายจีน จีนนั้นจำเป็นต้องทำข้อตกลงกับเรา เราไม่ได้จำเป็นต้องทำข้อตกลงกับพวกเขา จีนต้องการสิ่งที่เรามี นั่นคือผู้บริโภคชาวอเมริกัน" โฆษกผู้นี้อ่านข้อความที่เธอบอกว่าเป็นคำแถลงของทรัมป์
(ที่มา: รอยเตอร์/MGRออนไลน์)