ราฟาเอล กรอสซี หัวหน้าหน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ เตือนเมื่อวันพุธ(16เม.ย.) ว่าอิหร่าน "อยู่ไม่ห่าง" จากการครอบครองระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่งๆ ความเห็นซึ่งมีขึ้นไม่นานก่อนเดินทางถึงเตหะราน เพื่อเจรจา
บรรดาชาติตะวันตก ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯกล่าวหาอิหร่านมาช้านาน ว่ากำลังเสาะหาการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง คำกล่าวหาที่เตหะรานปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขานั้น เป็นโครงการสันติที่มีจุดประสงค์ทางพลเรือน
"มันเหมือนกับเกมจิ๊กซอว์ พวกเขามีชิ้นส่วนต่างๆแล้ว และวันใดวันหนึ่งพวกเขาอาจประกอบมันเข้าด้วยกัน" กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) บอกกับ เลอ มอนเด หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส ในการสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(16เม.ย.) "พวกเขายังคงเหลือหนทางให้เดินต่อ ก่อนไปถึงจุดนั้น แต่พวกเขาอยู่ไม่ห่างแล้ว นั่นเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องรับทราบ"
ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ มีภาระหน้าที่ตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านและคอยดูว่าเตหะรานปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 หรือไม่ ก่อนที่ข้อตกลงดังกล่าวจะพังครืนลงในอีก 3 ปีต่อมา หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกาสมัยแรก นำสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว
"มันไม่เพียงพอหรอก ที่คุณจะบอกกับประชาคมนานาชาติแค่ว่า เราไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ แล้วเราจะเชื่อคุณ เราจำเป็นต้องสามารถเข้าตรวจสอบ" กรอสซี กล่าว ทั้งนี้เขาเดินทางถึงกรุงเตหะรานในวันพุธ(16เม.ย.) และได้พบปะกับ อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านไปแล้ว และคาดหมายว่าจะพบปะกับ โมฮัมหมัด เอสลามี หัวหน้าหน่วยงานพลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน เป็นลำดับต่อไป
กรอสซี ให้คำจำกัดความการพบปะกันระหว่างเขากับอารากชี ว่ามีความสำคัญมาก "การร่วมมือกับ IAEA เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมอบคำรับประกันที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับลักษณะสันติของโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ในช่วงเวลาที่ความพยายามด้านการทูตมีความจำเป็นเร่งด่วน" เขาเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
การเดินทางเยือนของกรอสซี มีขึ้นก่อนหน้าการเจรจารอบ 2 ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯในวันเสาร์(19เม.ย.) หนึ่งสัปดาห์หลังจากทั้ง 2 ประเทศ ประชุมกันในระดับสูงที่สุด นับตั้งแต่ ทรัมป์ ละทิ้งข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2018 โดยทั้ง 2 ฝ่าย ให้คำจำกัดความการพบปะกันครั้งแรกว่า "เป็นไปอย่างสร้างสรรค์"
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน อารากชี ประกาศกร้าวว่าการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมภายใต้โครงการนิวเคลียร์ของพวกเขา "เป็นสิ่งที่ไม่อาจต่อรองได้" หลังจาก สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตตะวันออกกลางของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ยุติการการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม
"การเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านนั้นเป็นของจริง เป็นประเด็นที่เรายอมรับ" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว "เราพร้อมเสริมสร้างความเชื่อมั่นตอบสนองต่อความกังวลต่างๆนานาที่เกี่ยวข้อง แต่ประเด็นการเสริมสมรรถนะเป็นสิ่งที่ไม่อาจต่อรองได้"
ความเห็นของ อารากชี มีขึ้นหลังจาก วิตคอฟฟ์ ในวันอังคาร(15เม.ย.) บอกว่าอิหร่านต้อง "หยุดและละทิ้ง" การเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ส่วนหนึ่งในข้อตกลงนิวเคลียร์
หนึ่งวันก่อนหน้านี้ วิตคอฟฟ์ เรียกร้องเพียงให้ อิหร่าน คืนสู่เพดานการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแค่ระดับ 3.67% ซึ่งกำหนดไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่เตหะรานทำไว้กับบรรดาชาติมหาอำนาจ
ในรายงานล่าสุดของ IAEA คาดหมายว่า อิหร่าน สามารถยกระดับการแปรรูปยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์สูงถึง 60% ในปริมาณกว่า 274.8 กิโลกรัม ซึ่งมันถือเป็นระดับที่เกินกว่าเพดานที่กำหนดไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 เป็นอย่างมาก แต่ยังคงห่างไกลจากระดับ 90% ที่จำเป็นสำหรับหัวรบนิวเคลียร์
หลังจากกลับสู่ตำแหน่งในเดือนมกราคม ทรัมป์คืนชีพมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานอิหร่านอีกรอบ ภายใต้นโยบายกดดันขั้นสูงสุด ในเดือนมีนาคม เขาเขียนจดหมายถึงผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เรียกร้องให้เจรจา แต่ก็เตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้ปฏิบัติการทางทหาร หากล้มเหลวในการก่อข้อตกลงใดๆ
ก่อนหน้าการเจรจารอบใหม่ในวันเสาร์(19เม.ย.) อารากชี ประณามในสิ่งที่เขาเรียกว่าจุดยืนที่กลับไปกลับมาและขัดแย้งกันของรัฐบาลทรัมป์ "เราจะพบความเห็นที่แท้จริงของอเมริกา ระหว่างการเจรจาต่อรอง"
อารากชี แสดงความหวังว่าจะสามารถเริ่มต้นการเจรจาในกรอบความเป็นไปได้ของข้อตกลง แต่เขาบอกว่ามันจำเป็นต้องมีจุดยืนที่สร้างสรรค์มาจากฝั่งสหรัฐฯ "ถ้าเรายังคงได้รับฟังจุดยืนที่กลับไปกลับมาและขัดแย้งกัน เราก็จะมีปัญหา" เขาเตือน
(ที่มา:เอเอฟพี)