อินโดนีเซียออกมาปฏิเสธเมื่อวันอังคาร (15 เม.ย.) รายงานข่าวที่ปรากฎอยู่ในสิ่งตีพิมพ์ของ เจนส์ ซึ่งระบุว่ารัสเซียได้ขอตั้งฐานเครื่องบินทหารของตนที่ปาปัว จังหวัดที่อยู่สุดทิศตะวันออกของแดนอิเหนา
“รายงานข่าวนี้ไม่ถูกต้อง” เป็นคำแถลงของ เฟรกา เวนัส โฆษกของกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย
ทางด้านบริษัทแพร่ภาพและกระจายเสียงออสเตรเลีย (เอบีซี) รายงานว่า รัฐมนตรีกลาโหม ริชาร์ด มาร์เลส ของแดนจิงโจ้ ก็ได้พูดจากับรัฐมนตรีกลาโหม สจาฟรี สจาโซเอดดิน ของแดนอิเหนา โดยที่รัฐมนตรีอินโดนีเซียผู้นี้กล่าวยืนยันว่าจะไม่มีเครื่องบินใดๆ ของกองทัพอากาศรัสเซียมาตั้งฐานในอินโดนีเซีย
“เขา (รมว.กลาโหมอินโดนีเซีย) พูดกับผมด้วยถ้อยคำที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ว่า รายงานข่าวเรื่องเกี่ยวกับลู่ทางความเป็นไปได้ซึ่งจะมีเครื่องบินรัสเซียปฏิบัติการจากอินโดนีเซียนั้น เป็นเรื่องที่ไม่จริง” มาร์เลส กล่าว
ปาปัวตั้งอยู่ห่างออกไปราวๆ 1200 กิโลเมตรทางทิศเหนือของเมืองดาร์วิน ของออสเตรเลีย โดยที่เมืองเอกของดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ในออสเตรเลียแห่งนี้ มีกองกำลังหมุนเวียนของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯเข้าไปตั้งฐานเป็นเวลา 6 เดือนของแต่ละปี ขณะที่ฐานทัพอากาศออสเตรเลียหลายแห่งก็กำลังได้รับการปรับปรุงยกระดับเพื่อรองรับพวกเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐฯที่จะเดินทางไปเยือน
สิ่งพิมพ์ของ เจนส์ รายงานว่า อินโดนีเซียได้รับคำขออย่างเป็นทางการจากรัสเซีย ขออนุญาตให้เครื่องบินของกองกำลังการบินและอวกาศรัสเซีย (Russian Aerospace Forces หรือ VKS) ประจำการ ณ ฐานแห่งหนึ่งในจังหวัดปาปัว ทางตะวันออกสุดของอินโดนีเซีย ทั้งนี้ เจนส์ เป็นบริษัทที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร โดยทำธุรกิจหลักในการรวบรวมข่าวกรองจากแหล่งข้อมูลเปิดเผยระดับโลก บริษัทแห่งนี้มีชื่อเสียงความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านข่าวกรองการทหาร, ความมั่นคงแห่งชาติ, การบินและอวกาศ, และหัวข้อทางด้านการคมนาคมขนส่ง
รายงานข่าวนี้ออกมา ในขณะที่ เดนิส มานตูรอฟ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เดินทางมาเยือนอินโดนีเซีย โดยได้เข้าพบหารือกับประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย ณ ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันอังคาร(15)
ในอีกด้านหนึ่ง ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกของทำเนียบเครมลิน กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร (15) ว่า มีข่าวปลอมต่างๆ นานาจำนวนมากมายกระจัดกระจายไปทั่ว ตลอดจนถูกนำมาเผยแพร่ทางสื่อมวลชน รวมทั้งพวกที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่หวงห้ามทั้งหลาย แต่สำหรับในกรณีนี้ เราไม่ขอให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ดังกล่าวนี้”
(ที่มา: รอยเตอร์)