สหภาพยุโรป(อียู) ออกคำแนะนำถึงพวกเจ้าหน้าที่ที่กำลังเดินทางเยือนสหรัฐฯ ให้ใช้เฉพาะแค่อุปกรณ์ไอทีพื้นฐาน เพื่อลดความเสี่ยงถูกจารกรรม ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สในวันจันทร์(14เม.ย.) อ้างอิงแหล่งข่าวหลายคน ความเคลื่อนไหวอัพเดทคำแนะนำด้านการเดินทางนี้ มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่หนักหน่วงขึ้นระหว่างบรัสเซลส์กับวอชิงตัน เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของประธานาธิดบีโดนัลด์ ทรัมป์
แหล่งข่าวเปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการยุโรปออกกฎระเบียบใหม่สำหรับพวกเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางไปร่วมประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์) ที่กำลังมาถึง โดยพวกเจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งให้พกพาเพียงโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าๆ อุปกรณ์แบบเติมเงินที่ไม่จำเป็นต้องมีการแสดงตัวตน และแล็ปท็อปเครื่องเปล่าที่มีข้อมูลบรรจุอยู่ภายในน้อยที่สุด
นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานข่าวว่าพวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้นยังได้รับการคำแนะนำให้ปิดอุปกรณ์ต่างๆและใส่มันไว้ในปลอกต่อต้านการสอดแนม เมื่อเดินทางไปถึงสหรัฐฯ
มาตรกรนี้เคยถูกใช้กับพวกเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปยังยูเครนและจีน ท่ามกลางความกังวลต่อกรณีอาจถูกสอดแนมโดยรัสเซียหรือจีน แหล่งข่าวกล่าวอ้าง "พวกเขามีความกังวลว่าสหรัฐฯอาจเจาะเข้าสู่ระบบของคณะกรรมาธิการ พันธมิตรข้ามแอตแลนติกจบลงแล้ว" แหล่งข่าวอีกคนระบุ
คณะกรรมาธิการยุโรปยืนยันกับไฟแนนเชียลไทม์สว่าพวกเขาได้อัพเดทคำแนะนำด้านการเดินทาง แต่ไม่เจาะจงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ
ลุค ฟาน มิดเดลาร์ หัวหน้าสถาบันวิจัยภูมิรัฐศาสตร์ ในบรัสเซลส์ บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส ว่า คำแนะนำนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในทางปฏิบัติ "มันคือการยอมรับความเป็นจริงของคณะกรรมาธิการ" เขากล่าว พร้อมเท้าความถึงกรณีอื้อฉาวในยุคของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่วิกิลีกส์ออกมาแฉว่าสหรัฐฯสอดแนมนางอังแกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ณ ขณะนั้น และบรรดาผู้ช่วยของเธอ
"วอชิงตันไม่ใช่ปักกิ่งหรือมอสโก แต่พวกเขาเป็นศัตรูที่ใช้วิธีการต่างๆที่อยู่นอกเหนือกฎหมายมาช้านาน เพื่ออำนาจและประโยชน์เพิ่มเติมของตนเอง" เขากล่าว
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลง "วันแห่งการปลดปล่อย" เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เขาสั่งรีดภาษีตอบโต้ 20% เล่นงานสินค้านำเข้าต่างๆจากอียู เพิ่มเติมจากเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมีเนียมนำเข้าอีก 25% โดยเขากล่าวหาทางกลุ่ม "ฉีกอเมริกาเป็นชิ้นๆ" ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอเมริกา 39% แม้ต่อมา ทรัมป์ ระงับการรีดภาษีเป็นเวลา 90 วัน แต่ภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่
อียู ประณามความเคลื่อนไหวนี้และเห็นพ้องกันกำหนดมาตรการรีดภาษีของตนเองเล่นงานสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ล่าสุดก็ระงับความเคลื่อนไหวดังกล่าวเช่นกัน และกำลังหาทางเจรจาและบรรลุข้อตกลงการค้าใหม่กับวอชิงตัน อย่างไรก็ตามทางกลุ่มเตือนว่าจะรีดภาษแก้แค้นบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างเช่นเมตาและกูเกิล หากการเจรจาล้มเหลว
ความตึงเครียดระหว่างอียูและสหรัฐฯยังได้ขยายวงไปไกลเกินกว่าขอบเขตด้านการค้า ทรัมป์ขู่ถอนการรับประกันความปลอดภัยโดยสหรัฐฯ จนกว่าทางกลุ่มจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมในนาโต กระตุ้นให้อียูผลักดันยกระดับกองทัพในวงกว้างเมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนี้บรัสเซลส์ยังถูกกีดกันให้อยู่วงนอกของการเจรจาระหว่างอเมริกากับรัสเซียในประเด็นยูเครน ท่ามกลางความสัมพันธ์อันอบอุ่นขึ้นระหว่างมอสโกกับวอชิงตัน
(ที่มา:ไฟแนนเชียลไทม์ส/อาร์ทีนิวส์)