ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(14เม.ย.) บ่งชี้ว่าเขาอาจยกเว้นรีดภาษีรถยนต์นำเข้าเป็นการชั่วคราว ทั้งที่เพิ่งกำหนดเพดานภาษีเล่นงานภาคอุตสาหกรรมนี้ไปหมาดๆ เพื่อให้เวลากับบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย ยกเครื่องเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานอันซับซ้อนของพวกเขา
ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่รวมตัวในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ระบุว่าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ "ต้องการเวลาสักเล็กน้อย" ในการโยกย้ายฐานการผลิตจากเม็กซิโก แคนาดาและที่อื่นๆ มายังสหรัฐฯ
ซัปพลายเชนของบรรดาผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสหรัฐฯ ผูกโยกอย่างแน่นแฟ้นกับชาติอื่นๆ ส่งผลทำให้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตรถยนต์ในอเมริกาโดยตัดขาดจากต่างชาติ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สืบเนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ต้องนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์จำนวนมากจากบรรดาคู่ค้าหลัก ในนั้นรวมถึงแคนาดา เม็กซิโกและจีน ดังนั้นรถยนต์ที่ผลิตเองโดยสหรัฐฯ ทั้งคันจึงไม่มีอยู่จริง
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เพิ่งกลับลำมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ หลังมาตรการเหล่านั้นก่อแรงสั่นสะเทือนแก่ตลาดการเงิน และทำให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เศรษฐกิจของอเมริกาจะดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยในปีนี้
ในส่วนของมาตรการรีดภาษี 25% สำหรับรถยนต์ที่ผลิตโดยต่างประเทศ ซึ่ง ทรัมป์ มีเจตนาดึงกำลังการผลิตรถยนต์กลับมาสู่สหรัฐฯ ดูเหมือนอาจทำให้ราคารถยนต์พุ่งขึ้นหลายพันดอลลาร์
แดน อีฟส์ วิเคราะห์จากสถาบัน Wedbush Securities ประเมินว่า ราคารถยนต์ทั่วไปอาจสูงขึ้นระหว่าง 5,000 ดอลลาร์(ราว 170,000บาท) ถึง 10,000 ดอลลาร์(335,000บาท) ต่อคัน สืบเนื่องจากมาตรการรีดภาษี
(ที่มา:ซีบีเอส)