ขีปนาวุธของรัสเซีย 2 ลูก ตกเข้าใส่ใจกลางเมืองซูมี ทางเหนือของยูเครน ในวันอาทิตย์(13เม.ย.) สังหารผู้คนไป 34 รายและบาดเจ็บ 117 คน ในเหตุโจมตีนองเลือดที่สุดในยูเครนในปีนี้
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องนานาชาติตอบโต้รัสเซียอย่างหนักหน่วงต่อการโจมตีดังกล่าว ซึ่งมีขึ้นในขณะที่ความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กำลังผลักดันให้ยุติสงครามอย่างรวดเร็ว กำลังประสบปัญหาในการฝ่าทางตัน
เซเลนสกี โพสต์วิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพร่างไร้วิญญาณกระจัดกระจายอยู่กลางถนนสายหนึ่งในเมืองแห่งนี้ ใกล้กับรถบัสที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักและรถยนต์หลายคนที่อยู่ในสภาพถูกไฟเผาไหม้ "มีแต่พวกคนชั่วเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้ การพรากชีวิตประชาชนคนธรรมดา" เขากล่าว พร้อมเน้นว่าการโจมตีในวันอาทิตย์(13เม.ย.) มีขึ้นในขณะที่ผู้คนบางส่วนกำลังเดินทางไปโบสถ์
พวกผู้นำสหราชอาณาจักร เยอรมนีและอิตาลี ต่างออกมาประณามการโจมตีครั้งนี้ ในขณะที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงแสดงความเสียใจกับเหยื่อและบอกว่าการโจมตี "คือการเตือนความทรงจำอย่างน่าเศร้า ว่าทำไมประธานาธิบดีทรัมป์และรัฐบาลของเขาถึงทุ่มเทเวลามากมายเหลือเกินในความพยายามทำให้สงครามนี้ยุติลง"
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอสที่ออกอากาศในเวลาต่อมาในวันอาทิตย์(13เม.ย.) เซเลนสกี เรียกร้อง ทรัมป์ ให้เดินทางเยือนยูเครน เพื่อดูด้วยตาของตนเอง "กรุณามาดูประชาชน พลเรือน นักรบ โรงพยาบาล โบสถ์ เด็ก สภาพความเสียหาย ถูกทำลายหรือผู้เสียชีวิต"
ภายใต้รัฐบาลของทรัมป์ พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯทำการพูดคุยแยกกันกับทั้งรัสเซียและยูเครน ในความพยายามเดินหน้าการยุติความเป็นปรปักษ์ในยูเครน รัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นกับรอยเตอร์ต่อเหตุการณ์ในเมืองซูมี แต่ที่ผ่านมา มอสโก ปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานพลเรือน แม้มีผู้คนหลายพันคนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ในปฏิบัติการรุกรานยูเครนของพวกเขา
การโจมตีครั้งนี้ยังมีขึ้นตามหลังเหตุยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งเข้าใส่เมืองครีวี ริห์ ทางภาคกลางของยูเครน บ้านเกิดของเซเลนสกีและอยู่ห่างมากจากแนวหน้าภาคพื้นของสงคราม ที่อยู่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน สังหารผู้คนไป 20 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 9 คน
ซูมี ซึ่งมีประชากรอยู่ราวๆ 250,000 คนและตั้งอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียแต่ 25 กิโลเมตร กลายเป็นเมืองอันเป็นที่ตั้งกองทหาร ครั้งที่กองกำลังเคียฟเปิดฉากรุกรานเข้าสู่รัสเซียในเดือนสิงหาคม ทว่านับตั้งแต่นั้นถูกขับไล่ออกมาเป็นส่วนใหญ่
อาร์เท็ม ค็อบซาร์ รักษาการนายกเทศมนตรีเมืองซูมี แถลงไว้ทุกข์แก่เหยื่อเป็นเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันจันทร์(14เม.ย.) ในขณะที่ อิฮอร์ คลีเมนโก รัฐมนตรีมหาดไทยเผยว่าผู้คนกำลังอยู่บนท้องถนนหรืออยู่ภายในรถ อยู่ในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะและอาคารต่างๆ ตอนที่ขีปนาวุธพุ่งใส่เมืองแห่งนี้
อันดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะทำงานของเซเลนสกี อ้างว่าขีปนาวุธเหล่านั้นบรรจุกระสุนคลัสเตอร์ "รัรเซียทำเรื่องนี้ เพื่อฆ่าพลเมืองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เขากล่าวหา
รัสเซีย เปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และปัจจุบันยึดครองดินแดนของประเทศเพื่อนบ้านอยู่ราวๆ 20% ในภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเวลานี้กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบอย่างช้าๆในภาคตะวันออก
อันดรี ชีบิฮา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เผยว่าเคียฟ "กำลังแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามครั้งนี้แก่ทุกคู่หูของเราและสถาบันระหว่างประเทศ" ทั้งนี้ศาลอาญาระหว่างประเทศในเมืองเฮก ซึ่งยูเครนเข้าร่วมอย่างเป็นทางการในปีนี้ กำลังอยู่ระหว่างทำการสืบสวนคดีร้ายแรงต่างๆตามคำกล่าวอ้างก่ออาชญากรรมสงครามในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
ทางด้าน อันเดรีย์ โควาเลนโก เจ้าหน้าที่่ระดับสูงที่ทำหน้าที่กำกับดูแลศูนย์ต่อต้านการบิดเบือนข้อมูลของยูเครน เน้นย้ำว่าการโจมตีเกิดขึ้นหลังจาก สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหัฐฯเดินทางเยือนรัสเซีย เพื่อเจรจากับพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของมอสโก ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน "รัสเซียสานต่อในสิ่งที่เรียกว่าการทูต ด้วยการโจมตีเข้าใส่พลเรือน" เขาเขียนประชดประชันบนเทเลแกรม
ยูเครนและรัสเซีย เห็นพ้องหยุดโจมตีเข้าโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของอีกฝ่ายเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ทั้ง 2 ฝ่ายกล่าวหากันไปมาว่าละเมิดข้อตกลง
ตามหลังเหตุโจมตีเมืองซูมีในวันอาทิตย์(13เม.ย.) เซเลนสกี เรียกร้องสหรัฐฯและยุโรปตอบโต้อย่างหนักหน่วงต่อสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าก่อการร้ายรัสเซีย
ขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวหายูเครนเมื่อวันเสาร์(12เม.ย.) ได้ทำการโจมตีเข้าใส่โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของรัสเซีย 5 รอบ หนึ่งวันก่อนหน้า ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็นการโจมตีที่ละเมิดข้อตกลงที่มีสหรัฐฯเป็นคนกลาง
(ที่มา:รอยเตอร์)