รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังร่างคำสั่งบริหารเพื่อนำไปสู่การกักตุนก้อนแร่โลหะจากใต้ทะเลลึก (deep-sea metals) ในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อลดทอนอิทธิพลของจีนในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุและแรร์เอิร์ธ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส
รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า รัฐบาล ทรัมป์ มีแผนที่จะ “สร้างคลังแร่โลหะขนาดใหญ่ภายในดินแดนสหรัฐฯ เพื่อเก็บไว้ใช้งานในอนาคต” ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่กับจีน ซึ่งอาจกระทบต่อการนำเข้าโลหะและแรร์เอิร์ธ
ก้อนแร่โลหะที่มีขนาดพอๆ กับหัวมันฝรั่ง และก่อเกิดขึ้นบนพื้นทะเลจากแรงกดดันนับเป็นเวลาหลายล้านปีนี้ประกอบด้วยโลหะหลายชนิด เช่น นิกเกิล โคบอลต์ ทองแดง และแมงกานีส ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ทำแบตเตอรี สายไฟ หรือเครื่องกระสุนต่างๆ รวมไปถึงอาจจะมีแรร์เอิร์ธอยู่บ้างบางส่วนด้วย
สัปดาห์ที่แล้ว จีนได้ประกาศจำกัดการส่งออกแรร์เอิร์ธบางชนิดเพื่อตอบโต้มาตรการรีดภาษีสินค้าจีนของประธานาธิบดี ทรัมป์ ซึ่งอาจทำให้สหรัฐฯ ขาดแคลนแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์ไฮเทคทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟนเรื่อยไปจนถึงแบตเตอรีรถยนต์
การสร้างคลังสำรองแร่โลหะนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามผลักดันกฎหมายออกใบอนุญาตทำเหมืองแร่ใต้ทะเลลึกแบบ “ฟาสต์แทร็ก” และสร้างโรงงานแปรรูปแร่ขึ้นบนชายฝั่งสหรัฐฯ
จีนมีสัดส่วน 90% ในการครองตลาดแรร์เอิร์ธ ซึ่งหมายถึงธาตุหายาก 17 ชนิดที่ถูกใช้งานในอุตสาหกรรมด้านกลาโหม รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
ปัจจุบันสหรัฐฯ ยังคงจำเป็นต้องนำเข้าแรร์เอิร์ธเกือบทั้งหมด และส่วนใหญ่ก็มาจากจีน
ทั้งทำเนียบขาวและกระทรวงการต่างประเทศจีนยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับรายงานนี้
ที่มา: รอยเตอร์, ไฟแนนเชียลไทม์ส