xs
xsm
sm
md
lg

ไม้เด็ดท่านสี!สะพัดจีนเริ่มเทขายพันธบัตรสหรัฐฯ ต้นตอทรัมป์ถอยแทบไม่ทันรีดภาษีโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สื่อต่างประเทศรายงาน จีน อาจเริ่มเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ตามหลังแถลงรีดภาษีสินค้านำเข้าจากอเมริกา 84% ในช่วงปลายสัปดาห์ ความเคลื่อนไหวที่เชื่อกันว่าอาจเป็นตัวกระตุ้นให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับลำมาตรการทางภาษีที่กำหนดเล่นงานนานาชาติ

ในการตัดสินใจโหมกระพือความตึงเครียดกับวอชิงตัน ทางประธานธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ยกระดับกดดันทางเศรษฐกิจ ตอบโต้สงครามการค้าที่รื้อฟื้นขึ้นมาโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์

ดันแคน ริกลีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านจีน แห่งบริษัท Pantheon Macroeconomics ในสหราชอาณาจักร ให้ความเห็นว่า "ปักกิ่งมองดูหนทางที่สิ่งต่างๆกำลังดำเนินไป แล้วคิดว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสของการถาโถมแรงกดดันกว่าเดิมเข้าใส่สหรัฐฯ อันเนื่องจากมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ ที่กระทรวงการต่างประเทศจีนตราหน้าว่าเป็นการรังแกทางเศรษฐกิจ และเวลานี้ ปักกิง กำลังเอาคืนผ่านตลาดหนี้"

จนถึงเดือนมกราคม จีนถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 761,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ถือครองหนี้รัฐบาลอเมริกา รายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามนั่นเป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการ โดย รูบิน บรู๊คส์ นักวิเคราะห์อาวุโสจากสถาบัน Brookings Institute คาดการณ์ว่าตัวยอดรวมที่แท้จริงอาจจะฉียดๆ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หากนับรวมการถือครองแบบลับๆผ่านบัญชีต่างๆที่อยู่ภายใต้การดูแลของยุโรป

ด้วยการเทขายหนี้นี้ออกมา จีนก่อแรงกดดันโดยตรงต่อต้นทุนการกู้ยืมของสหรัฐฯ การขายพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวขึ้น ผลักให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพื่อหาทุนป้อนตนเอง มันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง หนึ่งในนั้นทำให้ตลาดการเงินไร้เสถียรภาพ อย่างไรก็ตามขณะเดียวกันหากว่าปักกิ่งเทขายออกมาหนักหน่วงเกินไป มูลค่าที่เหลือของหนี้ที่พวกเขาถือครองอยู่ก็จะลดลงเช่นกัน และอาจกลายเป็นบูมเมอแรงย้อนศรเล่นงานตนเอง

มาร์เซลโล เอสเตวาโอ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน International Finance เตือนว่าการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะเป็นอันตรายกับปักกิ่งเช่นกัน "มันจะไม่เป็นประโยชน์กับตัวพวกเขาเอง เพราะว่ามันจะส่งผลกระทบกับจีนอย่างหนักมากๆเช่นกัน"

"นั่นเพราะว่ารัฐบาลกลางจีนและธนาคารต่างๆของจีนที่มีรัฐเป็นเจ้าของ เต็มไปด้วยสินทรัยพ์ดอลลาร์ ราวๆ 3 ล้านล้านดอลลาร์" ตามคำกล่าวของ มาร์ค วิลเลียมส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียของ Capital Economics กล่าว "มูลค่าดังกล่าว พอๆกับมูลค่าจีดีพีของสหราชอาณาจักรเลยทีเดียว การพยายามกำจัดหนี้มากมายมหาศาลเหล่านั้นเร็วเกินไป อาจก่อไฟย้อนศรอย่างหนัก"

"การเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯก็อาจกระทบต่อดอลลาร์เช่นกัน นั่นหมายความว่าเงินดอลลาร์ที่จีนถือครองไว้อย่างมหาศาล ก็จะสูญมูลค่าลงในทันที มันเป็นสถานการณ์ที่แพ้ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย" วิลเลียมส์กล่าว พร้อมระบุว่าขณะเดียวกันหาก ปักกิ่ง เทขายดอลลาร์ สกุลเงินหยวนก็จะแข็งค่าขึ้น ซึ่้งจะกระทบกับการส่งออกของจีนและบั่นทอนสถานะทางการค้าของจีน

โรบิน บรู๊คส์ ระบุว่ากรณีเลวร้ายที่สุดจะโหมกระพือความตื่นตระหนกในตลาดพันธบัตร "ถ้าจีนประกาศว่าพวกเขากำลังเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่พวกเขาถือครองอยู่ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจะพุ่งขึ้น มันจะก่อคลื่นความช็อคครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตามธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะไม่นั่งดูเฉยๆ และเฟดจะเริ่มโปรแกรมผ่อนคลายทางการเงินครั้งใหญ่ในทันที เพื่อกดให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอ่อนตัวลง"

อย่างไรก็ตามการเข้าแทรกแซงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ต้องชดใช้ด้วยสิ่งอื่นเช่นกัน ถ้าเฟดซื้อหนี้จำนวนมหาศาลเพื่อตอบโต้ความเคลื่อนไหวของจีนและเงินเฟ้อที่พุ่งทะยาน โดยเฉพาะจากมาตรการรีดภาษีรอบใหม่ของทรัมป์ เฟดอาจลงเอยด้วยการขาดทุนมโหฬารในงบดุลของตนเอง

(ที่มา:มิดเทรด/เดลิเมล)


กำลังโหลดความคิดเห็น