xs
xsm
sm
md
lg

ของเข้าตัว!ทรัมป์ถอยกรูดแทบไม่ทัน เว้น'สมาร์ทโฟน-คอมพิวเตอร์-อิเล็กทรอนิกส์'จากการรีดภาษี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯอนุมัติยกเว้นกำแพงภาษีสูงลิ่วสำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ที่ส่วนใหญ่แล้วนำเข้าจากจีน สร้างความโล่งใจอย่างมากแก่บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้งหลาย อย่างเช่นแอปเปิล ที่พึ่งพิงผลิตภัณฑ์นำเข้าเหล่านี้

ในประกาศแจ้งถึงบรรดาผู้ขนส่ง สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนแห่งชาติสหรัฐฯ เผยแพร่รายการสินค้าต่างๆที่ได้รับการยกเว้นจากภาษีนำเข้า ซึ่งย้อนหลังไปจนถึง 00.01น.ของวันที่ 5 เมษายน(ตามเวลาท้องถิ่น)

หน่วยงานแห่งนี้เผยแพร่รายชื่อสินค้าต่างๆ 20 ประเภท ในน้ั้นรวมถึงรหัส 8471 ซึ่งเป็นรหัสสำหรับคอมพิวเตอร์ทุกชนิด แล็ปท็อป, ฮาร์กไดรฟ์ และโปรเซสเซอร์ นอกจากนี้แล้วมันยังรวมถึงวัสดุและอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ ชิปหน่วยความจำ และจอภาพดิสเพลย์แบบบางเรียบ

ประกาศดังกล่าวไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ แต่การมอบข้อยกเว้นในช่วงกลางดึก ได้สร้างความโล่งใจครั้งใหญ่แก่บรรดาเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้งหลาย อย่างเช่นแอปเปิล, เดลล์ และผู้นำเข้าอื่นๆอีกมาก

ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ยังรวมไปการตัดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ระบุไว้ ออกจากมาตรการรีดภาษีพื้นฐาน 10% จากประเทศอื่นทั้งหมด นอกเหนือจากจีน ช่วยลดต้นทุนการนำเข้าเซมิคอนดัคเตอร์ที่นำเข้าจากไต้หวันและผลิตภัณฑ์ของแอเปิลที่ผลิตในจีน

บรรดาซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมาก อ้าแขนต้อนรับทรัมป์ ครั้งที่เขาเริ่มดำรงตำแหน่งสมัย 2 เข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของเขาในวันที่ 20 มกราคม และร่วมเฉลิมฉลองกับเขาหลังจากนั้น ในขณะที่ ทิม คุ๊ก ซีอีโอของแอปเปิล ถึงขั้นเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงก่อนพิธีสาบานตน และเดินทางไปพบปะพูดคุยกับทรัมป์ ที่บ้านพักในฟลอริดา

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งระบุว่าสำหรับสินค้านำเข้าจากจีน ข้อยกเว้นจะใช้กับมาตรการรีดภาษีตอบโต้ของทรัมป์เท่านั้น ซึ่งพุ่งแตะระดับ 125% ในสัปดาห์นี้ โดยไม่รวมถึงมาตรการรีดภาษี 20% ก่อนหน้านั้น ที่ ทรัมป์ เรียกเก็บกับสินค้าจีนทั้งหมด ซึ่งเขาบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับวิกฤตยาเฟนตามิลที่ไหลทะลักเข้าสู่อเมริกา

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่บอกว่า ทรัมป์ เร็วๆนี้จะทำการเปิดการสืบสวนรอบใหม่ในด้านความมั่นคงทางการค้าแห่งชาติ ในเรื่องเกี่ยวกับเซมิคอนดัคเตอร์ ซึ่งมันอาจนำไปสู่การรีดภาษีอื่นๆรอบใหม่

แคโรไลน์ ลีวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว ระบุในถ้อยแถลงว่า ทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าอเมริกาไม่อาจพึ่งพิงจีนในการผลิตเทคโนโลยีต่างๆที่มีความสำคัญมาก อย่างเช่นเซมิคอนดัคเตอร์ ชิป สมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป

อย่างไรก็ตามเธอบอกว่าด้วยคำสั่งของทรัมป์ บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ในนั้นรวมถึงแอปเปิล เอ็นวิเดียและไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ กำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วในการย้ายการผลิตมายังสหรัฐฯเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การให้ข้อยกเว้น บ่งชี้ว่าภายในรัฐบาลทรัมป์มีความตระหนักมากขึ้นเรื่อยๆว่ามาตรการรีดภาษีของทรัมป์ จะก่อความเจ็บปวดแก่บรรดาผู้บริโภคที่อิดโรยกับภาวะเงินเฟ้ออยู่ก่อนแล้ว

แม้กระทั่งในอัตรารีดภาษีระดับต่ำดั้งเดิม 54% ที่เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีน พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าราคาไอโฟนระดับท็อปของแอปเปิล อาจพุ่งไปแตะระดับ 2,300 ดอลลาร์ จากเดิม 1,599 ดอลลาร์ ในขณะที่พวกนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์มองว่า ณ ระดับการรีดภาษี 125% มันเท่ากับว่าการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนต้องหยุดชะงักแทบทั้งหมด

เมื่อเร็วๆนี้ แอปเปิล เช่าเหมาลำเครื่องบินลำเลียงไอโฟนกว่า 600 ตัน หรือราวๆ 1.5 ล้านเครื่อง จากอินเดียมายังสหรัฐฯ ในความพยายามหลบหลีกมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ หลังทำการยกระดับการผลิตในอินเดีย ตามรายงานของรอยเตอร์ในวันศุกร์(11เม.ย.)

มาตรการที่ทรัมป์เรียกว่า "การรีดภาษีตอบโต้" เพิ่มความกังวลฉุดเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอยและเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกบางส่วนของพรรครีพับลิกันเอง ผู้ซึ่งไม่ต้องการสูญเสียเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ในศึกเลือกตั้งกลางเทอมในปีหน้า ให้แก่พรรคเดโมแครต ที่ได้ดีโจมตีนโยบายต่างๆนานาของทรัมป์

ทรัมป์ เลื่อนรีดภาษีในอัตราระดับสูงกับ 57 ชาติคู่หูการค้าและสหภาพยุโรปในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ประเทศต่างๆเกือบทั้งหมดเหลือถูกรีดภาษีเพียง 10% ในระหว่างที่พวกเขาหาทางเจรจาข้อตกลงการค้ากับวอชิงตัน

ตลาดเงินตกอยู่ในความยุ่งเหยิงอีกครั้งในวันศุกร์(11เม.ย.) หลังจีนตอบโต้มาตรการรีดภาษีล่าสุดของทรัมป์ ด้วยการปรับขึ้นเพดานภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% เพิ่มเดิมพันในสงครามการค้าที่คุกคามห่วงโซ่อุปทานโลก

ในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดสัปดาห์แห่งความผันผวนในแดนบวก แต่ทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และพันธมิตรรัฐบาลอเมริกาอายุ 10 ปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ 2001 และเมื่อรวมกับการดิ่งลงหนักของดอลลาร์ มันส่งสัญญาณถึงความไม่เชื่อมั่นต่อสหรัฐฯ

(ที่มา:รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น