xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ รอ ‘สี จิ้นผิง’ ขอเจรจา ลั่นยังเห็นผู้นำจีนเป็น ‘เพื่อน’ แม้จัดหนักรีดภาษีสินค้าจีน 145%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คำสั่งชะลอการรีดภาษีคู่ค้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ช่วยให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นทันควันในวันพุธ (9 เม.ย.) ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเตรียมจัดคิวเจรจากับหลายสิบประเทศที่ต้องการขอลดภาษีในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า

อย่างไรก็ดี ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่ยังไม่ยอมก้มหัวขอเจรจากับสหรัฐฯ จนถึงขณะนี้ก็คือ “จีน”

ในขณะที่ประเทศคู่ค้าทั่วโลกได้รับการผ่อนผันภาษีนำเข้าไปอีก 90 วัน ทรัมป์ กลับประกาศรีดภาษีสินค้าจีนเพิ่มซ้ำแล้วซ้ำอีกจนมาอยู่ที่ 145% ในปัจจุบัน

รัฐบาลจีนเลือกใช้มาตรการตอบโต้กับอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ด้วยการจำกัดนำเข้าภาพยนตร์ฮอลลีวูด จำกัดการส่งออกแร่หายากบางชนิดให้กับสหรัฐฯ และปรับขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าอเมริกันเป็น 84%


เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว 2 คนบอกกับ CNN ว่า สหรัฐฯ จะไม่เป็นฝ่ายติดต่อจีนก่อน และ ทรัมป์ ได้สั่งให้ทีมงานทุกคนรอจีนเป็นฝ่ายเข้ามาขอเจรจาเอง โดยทำเนียบขาวนั้นมองว่าปักกิ่ง “เลือก” ที่จะใช้วิธีแก้แค้นและเป็นต้นเหตุทำให้สงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้น

สหรัฐฯ ได้พยายามแสดงจุดยืนเช่นนี้ต่อจีนมานานหลายเดือนแล้ว โดยทีมงานของ ทรัมป์ เคยบอกผ่านเจ้าหน้าที่จีนไปหลายครั้งว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ควรเป็นฝ่ายขอพูดคุยกับ ทรัมป์ แต่ทว่าปักกิ่งยังคงปฏิเสธไม่ยอมจัดการหารือโทรศัพท์ระหว่างผู้นำทั้งสอง ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ 3 คน

คณะเจ้าหน้าที่ของ ทรัมป์ เชื่อว่า สี จิ้นผิง ไม่อยากถูกมองว่า “อ่อนแอ” ด้วยการยอมเป็นฝ่ายขอเจรจากับอเมริกาก่อน

ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบขาวว่า ตนเชื่อว่าสหรัฐฯ จะสามารถทำข้อตกลงกับจีนได้ แต่ก็ย้ำแนวคิดเดิมว่าปักกิ่ง “เอาเปรียบ” สหรัฐฯ มาเป็นเวลานานมากแล้ว

“ผมมั่นใจว่าเราสองคนจะเข้ากันได้ดีมากๆ” ทรัมป์ กล่าว พร้อมระบุว่าตนยังคงเคารพในตัวของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง

“อันที่จริงเขากับผมเป็นเพื่อนกันมานาน และผมเชื่อว่าสุดท้ายเราจะหาทางออกบางอย่างที่ดีสำหรับทั้ง 2 ประเทศได้”

ทรัมป์ ซึ่งหวังใช้พลังต่อรองกับจีนให้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ช่วยปราบปรามสารเสพติดเฟนทานิล และเปิดไฟเขียวขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ มั่นใจว่าจีนจะยอมหันหน้าพูดคุยในที่สุด

“จีนต้องการทำข้อตกลง พวกเขาก็แค่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธ (9) “คุณก็รู้ มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ถนัดเท่าไหร่ พวกเขาเป็นชนชาติที่ภาคภูมิใจในตัวเอง”

ท่ามกลางการเผชิญหน้าอย่างชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร ทำเนียบขาวก็หันไปเน้นทำข้อตกลงกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียดนาม เพื่อหวังเพิ่มแรงกดดันจีนให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทั้งอดีตและปัจจุบันยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการเปิดช่องทางพูดคุยระหว่าง ทรัมป์ กับ สี อย่างปัจจุบันทันด่วน แต่อดีตเจ้าหน้าที่อเมริกันบางคนก็ชี้ว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่การสร้างความเชื่อมั่นกับฝ่ายจีนว่า สี จิ้นผิง จะไม่ถูกสหรัฐฯ หักหน้า เหมือนอย่างที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเคยถูก ทรัมป์ ตำหนิติเตียนกลางห้องทำงานรูปไข่จนอับอายไปทั่วโลกมาแล้ว

“จีนย่อมจะต้องมีความลังเลไม่อยากให้ผู้นำของพวกเขาตกที่นั่งเดียวกับ เซเลนสกี” แดนนี รัสเซล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออก ซึ่งปัจจุบันเป็นรองประธาน Asian Society Policy Institute ระบุ

“พวกเขาต้องการให้มีการวางกรอบการทำงานก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะพบปะ และจะต้องมีกฎเกณฑ์บางอย่างที่ชัดเจนเสียก่อน”

ที่มา: CNN, รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น