xs
xsm
sm
md
lg

ใครคบได้มากกว่ากัน!สหรัฐฯขู่อียูเท่ากับปาดคอตัวเอง หากหันไปสานสัมพันธ์ใกล้ชิดจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตือนสหภาพยุโรป(อียู) จะเป็นการปาดคอตนเอง หากว่าพวกเขาเสาะแสวงหาความเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับจีน แล้วคลายความสัมพันธ์กับวอชิงตัน ความเห็นซึ่งมีขึ้นท่ามกลางสงครามรีดภาษีหลายแนวหน้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ความเห็นของ เบสเซนต์ เมื่อวันพุธ(9เม.ย.) มีขึ้นหลังจาก เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน เรียกร้องให้อียูทบทวนประเมินใหม่ในความสัมพันธ์ทางการค้ากับปักกิ่ง ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน

ซานเชซ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางเยือนเอเชีย เพื่อสานสัมพันธ์ทางการทูต ว่าอียูอาจได้ประโยชน์จากการร่วมมือใกล้ชิดกับจีน ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯและความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากคู่หูการค้าเกือบทุกชาติ

"ไม่มีใครเป็นผู้ชนะในสงครามการค้า ทุกๆประเทศพ่ายแพ้" ซานเชซเตือน

เบสเซนต์ ปกป้องมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ และเรียกร้องบรรดาชาติคู่หูอย่าไปเลือกข้างจีน อ้างว่านโยบายการค้าของปักกิ่งนั้นทำลายล้างเศรษฐกิจโลก

"รัฐมนตรีเศรษฐกิจในสเปน แสดงความคิดเห็นบางอย่างในเช้านี้ บอกว่าบางทีเราควรเข้าร่วมกับจีนมากกว่าเดิม นั่นมันเท่ากับเป็นการปาดคอตัวคุณเองเลยนะ" เบสเซนต์ กล่าวในถ้อยแถลงสรุป "การส่งออกของจีนเหล่านี้ที่อยู่ภายใต้กำแพงภาษีของสหรัฐฯจะยังคงถูกกีดกัน โมเดลธุรกิจจีน คือพวกเขาเอาแต่ผลิตและผลิต แล้วก็ทุ่มตลาดและทุ่มตลาด พวกเขาทำแบบนี้ไม่เคยหยุด"

เมื่อวันพุธ(9เม.ย.) ทรัมป์แถลงระงับรีดภาษีตอบโต้เป็นเวลา 90 วัน สำหรับ 75 ชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาสั่งรีดภาษีไล่ตั้งแต่ 10% จนถึง 50% แก้แค้นในสิ่งที่เขาเรียกว่าการค้าที่ขาดความสมดุลและไม่ยุติธรรม พร้อมกับปรับลดการเรียกเก็บภาษีเหลือระดับ 10% กับทุกชาติ ยกเว้นจีน ขณะเดียวกัน ทรัมป์ ได้ยกระดับรีดภาษี จีน เพิ่มเติมเป็น 125% โดยกล่าวหาปักกิ่งโหมกระพือสถานการณ์ลุกลามบานปลาย ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯสู่ระดับ 84%

"ในแง่ของสถานการณ์ที่ลุกลาม เคราะห์ร้ายที่ผู้กระทำผิดรายใหญ่ที่สุดในระบบการค้าโลกคือจีน และพวกเขาเป็นประเทศเดียวที่ทำให้สถานการณ์ลุกลาม" เบสเซนต์ระบุ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯบอกต่อว่าประเทศต่างๆหลายชาติ เวลานี้กำลังหาทางเจรจากับวอชิงตัน หลังมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษี โดยคิวต่อไปที่กำลังมาถึงคือญี่ปุ่นและเวียดนาม นอกจากนี้แล้วเขายังหวังได้ข้อสรุปข้อกลงการค้าใหม่กับบรรดาพันธมิตรของอเมริกา เพื่อสร้างแนวร่วมที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ในการต่อสู้กับสิ่งที่เขาเรียกว่า "โครงสร้างการค้าที่ไม่สมดุลของจีน"

จีน ส่งเสียงคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อมาตรการรีดภาษีและประกาศสู้จนถึงที่สุด โดยในวันพุธ(9เม.ย.) รัฐมนตรีคลังของจีน เรียกการปรับขึ้นภาษีล่าสุดของสหรัฐฯ "ว่าเป็นความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่ละเมิดสิทธิโดยชอบธรรมและผลประโยชน์ของจีน รวมถึงก่อความเสียหายร้ายแรงแก่ระบบการค้าพหุภาคีบนพื้นฐานของกติกา"

(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)


กำลังโหลดความคิดเห็น