xs
xsm
sm
md
lg

ยังไม่มั่นใจ! หลังทรัมป์ยอมชะลอรีดภาษีไป90วัน ธนาคารกลาง-นักวิเคราะห์วิตกที่ไร้ความแน่นอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชายผู้หนึ่งถ่ายภาพกระดานอิเล็กทรอนิกส์ ที่กำลังแสดงตัวเลขปิดในวันพฤหัสบดี (10 เม.ย.) ของดัชนีนิกเกอิของตลาดหลักทรัพย์โตเกียว
ตลาดการเงินทั่วโลกได้พักหายใจบ้างในวันพฤหัสบดี (10 เม.ย.) หลังจากเมื่อวันพุธ (9) ทรัมป์ประกาศปุบปับชะลอการรีดภาษีมหาโหดกับชาติคู่ค้าแทบทุกประเทศออกไปก่อน 90 วัน แม้ยังปักหลักทำสงครามการค้ากับจีนไม่ลดละก็ตาม ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางบางประเทศ รวมถึงนักวิเคราะห์หลายคนยังกังวลว่า ข่าวดีนี้อาจเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว และสถานการณ์โดยรวมยังคงไร้ความแน่นอนเช่นเดิม

การกลับลำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ประกาศออกมา หลังจากอัตราภาษีศุลกากรระลอกใหญ่เริ่มมีผลบังคับใช้กับประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ของอเมริกาไม่ทันถึง 24 ชั่วโมง เกิดขึ้นภายหลังตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนหนักที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 เมื่อหลายปีก่อน

ประกาศเปลี่ยนนโยบายปุบปับของทรัมป์ ทันส่งผลให้ตลาดหุ้นในสหรัฐฯตีตื้นฟื้นตัวอย่างแรงมากในการซื้อขายวันพุธ (9) รวมทั้งส่งอานิสงส์ต่อมาถึงการซื้อขายวันพฤหัสฯ (10) ของตลาดหลักทรัพย์แถบเอเชียและยุโรป กระนั้น มันกลับมีสัญญาณว่า ข่าวดีนี้อาจเกิดขึ้นสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากในการซื้อขายก่อนตลาดกายภาพเปิดเมื่อวันพฤหัสฯ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์กกลับมีราคาลดลง และราคาน้ำมันยังคงดิ่งต่อจากความกังวลว่า ความตึงเครียดทางการค้าอาจผลักดันให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ย้ำว่า สถานการณ์ที่ชัดเจนและคาดเดาได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการค้าและห่วงโซ่อุปทาน

ในภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจโลก ถึงแม้ประเทศต่างๆ ที่เป็นคู่ค้าของอเมริกา ต่างแสดงความยินดีกับการตัดสินใจล่าสุดของทรัมป์ และเดินหน้าเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐฯเพื่อคลี่คลายทำความตกลงให้วอชิงตันยอมลดอัตราภาษีศุลกากรมหาโหด ทว่าจีนกลับยืนกรานปฏิเสธ “การข่มขู่และแบล็กเมล์” ของสหรัฐฯ รวมทั้งขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าอเมริกันเป็น 84% กระตุ้นให้ทรัมป์สวนกลับทันทีด้วยการสั่งรีดภาษีสินค้าจีนเพิ่มรวมเป็น 125% จาก 104% ที่เริ่มบังคับใช้ในวันพุธ

ผู้นำสหรัฐฯ ยังลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อดำเนินมาตรการที่มุ่งลดฐานะครอบงำอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทั่วโลกของจีน และฟื้นชีวิตอุตสาหกรรมการต่อเรือของอเมริกา

โกลด์แมน แซคส์ ธนาคารเพื่อการลงทุนรายยักษ์ของสหรัฐฯ ประกาศปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตของเศรษฐกิจจีนประจำปีนี้จากที่เดิมที่ให้ไว้ในระดับ 4.5% เหลือแค่ 4% โดยอ้างอิงผลกระทบแง่ลบจากภาษีศุลกากร นอกจากนั้นเมื่อวันพฤหัสฯ ค่าเงินหยวนยังอ่อนที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับจากวิกฤตการเงินโลก

เวลาเดียวกัน ผู้ว่าการธนาคารกลางบางประเทศยังคงแสดงความกังวลว่า การกลับลำของทรัมป์เป็นข่าวดีแค่ชั่วคราวเท่านั้น ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การฟื้นตัวแรงของราคาหุ้นทั่วโลกในช่วงนี้ ไม่สามารถชดเชยความเสียหายทั้งหมดก่อนหน้านี้ และผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า การลงทุนภาคธุรกิจและการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนยังคงชะลอตัวเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีศุลกากร นอกจากนี้โพลของรอยเตอร์/อิปซอสส์พบว่า คนอเมริกัน 75% คาดว่า ราคาสินค้าจะแพงขึ้นในเดือนต่อๆ ไป

ฟรองซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กอลโล ผู้วางนโยบายของธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า การชะลอการขึ้นภาษีศุลกากรของอเมริกา ถือเป็นแค่ข่าวร้ายซึ่งย่ำแย่น้อยกว่าข่าวก่อนหน้านี้เท่านั้นเอง และย้ำว่า ความไม่แน่นอนยังคงอยู่เช่นเดิมซึ่งบ่อนทำลายความเชื่อมั่นและการเติบโต

สำหรับท่าทีของอเมริกาก็ดูสับสนไม่ชัดเจน โดยขณะที่ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวอ้างในวันพุธว่า การชะลอการขึ้นภาษี 90 วันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่วางไว้ก่อน เพื่อกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ เปิดเจรจากับอเมริกา

ทว่า หลังจากนั้นไม่นาน ทรัมป์ที่ยืนยันเสียงแข็งว่าการขึ้นภาษีศุลกากรจะช่วยแก้ปัญหาความไม่สมดุลทางการค้าของอเมริกา และจะทำให้เศรษฐกิจอเมริกาจริญรุ่งเรืองในระยะยาว โดยในเฉพาะหน้านี้ขอให้ใจเย็นเอาไว้ กลับบอกในวันพุธเช่นกันว่า การเห็นตลาดการเงินที่อยู่ในภาวะใกล้สติแตก ตั้งแต่ที่ตนเองประกาศขึ้นภาษีศุลกากรขยักแรก 10% รวดเมื่อวันที่ 2 ที่ผ่านมา คือเหตุผลที่ทำให้ตนตัดสินใจชะลอการขึ้นภาษีล่าสุดออกไปก่อน พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ถอยจากมาตรการภาษีศุลกากร เพียงแต่ “ต้องยืดหยุ่นกันบ้าง”

ประมุขทำเนียบขาวยังแสดงความคาดหมายว่า จะสามารถเจรจาจนบรรลุข้อตกลงการค้ากับทุกประเทศซึ่งรวมถึงจีน เพียงแต่ตอนนี้บรรดาผู้นำในปักกิ่งยังไม่รู้ว่า จะเริ่มต้นอย่างไรเท่านั้น และเสริมว่า นึกไม่ออกว่าจะขึ้นภาษีจีนมากกว่านี้ได้อย่างไร

กระนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุชัดเจนว่า จะเปิดเจรจากับประเทศอื่นๆ ที่ติดต่อเข้ามาและต้องการทำข้อตกลงกับอเมริกาก่อน เช่น เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จึงจะคุยกับจีน

นอกจากนั้น ทำเนียบขาวยังแถลงอธิบายว่า การประกาศชะลอเมื่อวันพุธนั้น ไม่มีผลไปถึงการขึ้นภาษีศุลกากรพื้นฐานซึ่งเก็บจากสินค้านำเข้าแทบทุกอย่างในอัตรา 10% ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันเสาร์ (5) ตลอดจนอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากภาคยานยนต์ เหล็กกล้า และอะลูมิเนียมที่บังคับใช้ไปแล้วก่อนหน้านั้น โดยมาตรการเหล่านี้ยังคงมีผลบังคับต่อไปตามเดิม เช่นเดียวกับกรณีของแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งสินค้าเข้าอเมริกาจากสองประเทศนี้ที่ได้รับการผ่อนผันชั่วคราวก่อนหน้านี้ ยังมีสิทธิ์ถูกรีดภาษีในอัตรา 25% อยู่ดี หากผลการสอบสวนที่สหรัฐฯกำลังดำเนินการอยู่ พบว่ามีการละเมิดกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดของสินค้าภายใต้ข้อตกลงการค้าอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น