อเมริกายุคมืด! สหรัฐฯจ้องเล่นงาน "นักศึกษาต่างชาติ" สั่งเพิกถอนวีซ่านักเรียนหลายร้อย ไม่ใช่แค่ประท้วงช่วยปาเลสไตน์แต่แค่เมาแล้วขับยังโดน

เอเจนซีส์ – กระทรวงต่างประเทศสมัยทรัมป์ 2.0 สั่งถอนวีซ่านักเรียนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 340 คนจากมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศนอกเหนือจากอ้างเหตุร่วมประท้วงปาเลสไตน์ ยังขยายไปถึงแค่กระทำความผิดลหุโทษตั้งแต่เมาแล้วขับ แอบเอาเอ็มบริโอกบจากฝรั่งเศสเข้าประเทศ พร้อมสั่งปรับสูงลิ่ววันละ 998 ดอลลาร์ (33,810 บาท) ถ้ายังไม่เดินทางออกนอกประเทศ

CNN ของสหรัฐฯรายงานวันพฤหัสบดี(10 เม.ย)ว่า ทาง CNN ได้ทำการตรวจสอบการยื่นต่อศาล แถลงการณ์จากทนายความและประกาศจากมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยหลายสิบแห่ง และยืนยันว่ามีจำนวน 340 คนที่เป็นนักศึกษา คณาจารย์ และนักวิจัยโดนสหรัฐฯสั่งเพิกถอนวีซ่าของตัวเองในปีนี้
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ กล่าวในเดือนที่แล้วว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯภายใต้การนำของเขาได้สั่งถอนวีซ่าไปไม่ต่ำกว่า 300 วีซ่าซึ่งส่วนใหญ่เป็นวีซ่านักเรียน

มาห์มูด คาลิล(Mahmoud Khalil) นักศึกษามหาวิทยาลัยโคลัมเบียกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วหลังการจับกุมจากการร่วมประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย

แต่อย่างไรก็ตาม CNN พบว่ากลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นในการเนรเทศนักศึกษาต่างชาติกลับประเทศเกี่ยวข้องกับวีซ่าโดนเพิกถอนจากความผิดลหุโทษ หรือบางทีไม่มีสาเหตุแม้แต่น้อย อ้างอิงจากกลุ่มทนายด้านการเข้าเมืองสหรัฐฯ

การจ้องเล่นงานนักศึกษาต่างชาติที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯเกิดขึ้นท่ามกลางการกวาดล้างการเข้าเมืองขยายวงกว้างมากขึ้น

เปโตรวา (Petrova) สาวรัสเซียซึ่งทำงานในฐานะนักวิจัยประจำคณะแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแอบเอาเอ็มบริโอกบสายพันธุ์ที่ไม่เป็นอันตรายมาจากฝรั่งเศสกลับมาที่สหรัฐฯเมื่อกุมภาพันธ์ แต่แทนที่จะโดนสั่งปรับเธอกลับโดนสั่งเพิกถอนวีซ่าแลกเปลี่ยนผู้มาเยือนและส่งเข้าห้องขัง

แต่ในขณะเดียวกันในการยื่นฟ้องในวันจันทร์(7) โดยนักวิจัยระดับมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยดาร์ทเมาท์จากจีน เส้าเถียน หลิว( Xiaotian Liu) นักศึกษาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ศึกษาอยู่ในอเมริกามาตั้งแต่ปี 2016 ร้องขอศาลสหรัฐฯสั่งงดเว้นการบังคับใช้คำสั่งชั่วคราวในการเนรเทศออกนอกประเทศ

CNN รายงานว่า Doğukan Günaydin ถูกหน่วย ICE ควบคุมเมื่อวันที่ 27 มี.ค เนื่องมาจากความผิดเมาแล้วขับก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯเปิดเผย

ทั้งนี้พบว่ามีกว่า 1.5 ล้านคนอยู่ในสหรัฐฯภายใต้วีซ่านักเรียนในปี 2023 ที่ออกโดยกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯ อ้างอิงจากรายงานรัฐบาลสหรัฐฯ
 
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวว่าโครงการแลกเปลี่ยนผู้มาเยือน (Exchange Visitor Program)ที่ทางกระทรวงดูแลเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติ 300,000 คนจาก 200 ประเทศและดินแดนต่อปี

มีนักศึกษาเป็นจำนวนมากที่โดนสั่งถอนวีซ่าและไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นตามมาในจุดนี้ ขณะที่บางส่วนถูกนำไปยังเรือนจำด้วยความตั้งใจจะเนรเทศคนเหล่านี้กลับออกไป

กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯได้กล่าวบนโซเชียลมีเดียในเชิงข่มขู่ว่า ทางกระทรวงสามารถสั่งปรับบุคคลเข้าเมืองสหรัฐฯได้ถึงวันละ 998 ดอลลาร์/วัน (33,810 บาท/วัน) ในการที่ยังคงอยู่ในประเทศหลังได้รับคำสั่งสุดท้ายของการเนรเทศแล้ว