xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ ลงนามคำสั่งบริหารฟื้น ‘อุตสาหกรรมต่อเรือ’ ในสหรัฐฯ หวังลดอิทธิพล ‘จีน’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันพุธ (9 เม.ย.) ให้ฟื้นฟูอุตสาหกรรมการต่อเรือในสหรัฐอเมริกาเพื่อลดทอนอิทธิพลของ “จีน” ที่มีต่ออุตสาหกรรมการเดินเรือทั่วโลก พร้อมให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะสนับสนุนเงินทุนสำหรับมาตรการนี้ไปตลอดหลายปีข้างหน้า

สมาชิกสภาคองเกรสทั้งสายรีพับลิกันและเดโมแครตส่งเสียงเตือนมาหลายปีแล้วเกี่ยวกับอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นด้านการเดินเรือ ตลอดจนความพร้อมรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ

มาร์ก เคลลี ส.ว. เดโมแครต และ ท็อดด์ ยัง ส.ว.รีพับลิกัน ออกมาแสดงความชื่นชมกับคำสั่งฝ่ายบริหารนี้ และรับปากว่าจะนำร่างกฎหมายซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคกลับเข้าสู่สภาคองเกรสอีกครั้งเพื่อขอการอนุมัติที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่อเรือ

คำสั่งบริหารของ ทรัมป์ ยังกำหนดให้ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ดำเนินการตามข้อเสนอ ซึ่งรวมถึงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเทียบท่าเรือสหรัฐฯ หลายล้านดอลลาร์จากเรือทุกลำที่สร้างโดยจีนหรือติดธงชาติจีน ในขณะที่ชาติพันธมิตรก็จะถูกผลักดันให้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันด้วย

ข้อเสนอว่าด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือของ USTR เรียกเสียงวิจารณ์รุนแรงจากผู้ส่งออกสินค้า สมาคมการค้า และผู้ประกอบการเรือในสหรัฐฯ เอง ซึ่งเตือนว่ามาตรการนี้อาจกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน นำไปสู่การเลิกจ้างตามเมืองท่าต่างๆ และภาวะเงินเฟ้อ

เจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (9) ว่า USTR จะดำเนินการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาภายในกลางเดือน เม.ย. และย้ำในสิ่งที่ตนกล่าวไปเมื่อวันอังคาร (8) ว่าแนวทางที่ USTR เสนอไปในเบื้องต้นอาจจะไม่ถูกนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้ทั้งหมด

คำสั่งของ ทรัมป์ ยังกำหนดให้ USTR ไปพิจารณาเรียกเก็บภาษีเครนขนถ่ายสินค้าจากเรือขึ้นฝั่งที่ผลิต ประกอบ หรือใช้ชิ้นส่วนที่มาจากจีน หรือผลิตในที่สถานอื่นๆ โดยบริษัทซึ่งมีชาวจีนเป็นเจ้าของ ควบคุม หรือมีอิทธิพลครอบงำอย่างยิ่ง รวมไปถึงพิจารณาเก็บภาษีอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้าชนิดอื่นๆ ด้วย

ผู้นำสหรัฐฯ ยังสั่งการให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเรียกเก็บค่าบำรุงอ่าวและค่าธรรมเนียมอื่นๆ รวมถึงหาวิธีสกัดกั้นไม่ให้เรือสินค้าหลบเลี่ยงค่าธรรมเนียมเหล่านี้ด้วยการขนสินค้าไปยังท่าเรือในเม็กซิโกและแคนาดา ก่อนจะลำเลียงเข้าสหรัฐฯ ผ่านพรมแดนทางบก

ระหว่างแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์ กล่าวว่าสหรัฐอเมริกา “จะใช้เงินจ่ายมหาศาลเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่อเรือ” และเพิ่มศักยภาพของอเมริกาในด้านนี้

“เรากำลังล้าหลัง ล้าหลังคนอื่นมากๆ” ทรัมป์ บอกกับผู้สื่อข่าว “เราเคยผลิตเรือได้วันละ 1 ลำ แต่เดียวนี้แม้แต่ 1 ลำต่อปีก็ยังทำไม่ได้ในทางปฏิบัติ ทั้งที่เรามีศักยภาพพอที่จะทำได้”

คำสั่งของ ทรัมป์ มีการอ้างข้อมูลจากศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศศึกษา (CSIS) ที่ระบุว่า สหรัฐฯ ผลิตเรือเชิงพาณิชย์ในสัดส่วนไม่ถึง 1% ของทั่วโลก ในขณะที่จีนครองส่วนแบ่งตลาดจาก 5% ในปี 1999 กลายมาเป็น “ครึ่งหนึ่ง” ณ เวลานี้

ทรัมป์ ยังมีคำสั่งให้ตั้งกองทุนทรัสต์เพื่อความปลอดภัยทางทะเล (Maritime Security Trust Fund) เพื่อจัดหาเงินทุนอุดหนุนโครงการเพิ่มศักยภาพทางทะเลของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็รวมถึงการพิจารณาเรียกเก็บภาษีหรือค่าธรรมเนียมใหม่ๆ ด้วย

ผู้นำสหรัฐฯ ยังเสนอให้จัดมาตรการจูงใจเพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนก่อสร้างชิ้นส่วนเชิงพาณิชย์ รวมถึงปรับปรุงอู่ต่อเรือ โรงซ่อมบำรุงเรือ และอู่แห้ง (dry docks)

อุตสาหกรรมต่อเรือของสหรัฐฯ เคยเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดในช่วงทศวรรษ 1970 ก่อนที่จะเริ่มซบเซาลง เนื่องจากต้นทุนที่สูงและโครงสร้างทางกฎหมายอันซับซ้อนซึ่งทำให้ประเทศคู่แข่งอย่างจีนสามารถเติบโตและช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดไปได้อย่างรวดเร็ว

ที่มา: รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น