‘อี แจ-มยอง’ ผู้นำฝ่ายค้านเกาหลีใต้ประกาศสู้ศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ

อี แจ-มยอง (Lee Jae-myung) ผู้นำฝ่ายค้านเกาหลีใต้ซึ่งถูกมองเป็น “เต็งหนึ่ง” สำหรับเก้าอี้ผู้นำประเทศคนต่อไป ประกาศตัวลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการในวันนี้ (10 เม.ย.) โดยให้สัญญาว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีแดนโสมขาวจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 3 มิ.ย. หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษายืนคำสั่งถอดถอนประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล จากกรณีการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว

ในถ้อยแถลงผ่านคลิปวิดีโอวันนี้ (10) อี ให้คำมั่นว่าจะเข้ามาแก้ไขการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ (economic polarization) ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นต้นตอของความขัดแย้งในสังคมเกาหลีใต้ พร้อมระบุว่าปัญหานี้ยิ่งเด่นชัดขึ้นในช่วงที่ประเทศเผชิญเหตุวุ่นวายทางการเมืองตามหลังการประกาศกฎอัยการศึก

เขายังประกาศว่ารัฐบาลจะส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและพรสวรรค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต

ในความความพยายามสร้างภาพลักษณ์นักปฏิบัติ (pragmatist) อี ย้ำว่าใครจะเป็นผู้ริเริ่มนโยบายไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ว่านโยบายนั้นเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองหรือไม่

นักวิจารณ์สายอนุรักษนิยมในเกาหลีใต้เคยออกมาเตือนว่า การขึ้นสู่อำนาจของผู้นำฝ่ายค้านอาจกัดเซาะความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ และสายสัมพันธ์กับญี่ปุ่นที่เริ่มดีขึ้น แต่ อี ก็ยืนยันว่าเขาจะใช้นโยบายการทูตที่เน้นการปฏิบัติได้จริง

“หากจะว่ากันตามตรง ความเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ นั้นสำคัญ และความร่วมมือ 3 ฝ่ายระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่นก็มีความสำคัญเช่นกัน และภายในกรอบแนวคิดนี้มีหลักสำคัญอยู่ว่า ผลประโยชน์ของสาธารณรัฐเกาหลีจะต้องมาเป็นที่หนึ่ง” เขากล่าว

ทั้งนี้ ผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่จะต้องเตรียมตัวรับศึกหนักในการเจรจากับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งนำกำแพงภาษีมาเป็นเครื่องมือบีบคั้นเรียกร้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากประเทศคู่ค้า และคาดว่าจะส่งผลกระทบไม่น้อยต่อเศรษฐกิจแดนโสมขาวที่พึ่งพาการส่งออก

อี วัย 61 ปี เคยพ่ายแพ้ให้กับ ยุน ซอกยอล ด้วยคะแนนส่วนต่างฉิวเฉียดที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งประธานาธิบดีของเกาหลีใต้เมื่อปี 2022 ทว่าในปีที่แล้วเขาได้เป็นผู้นำพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ฝ่ายค้านคว้าชัยชนะแบบถล่มทลายในศึกเลือกตั้งรัฐสภา และยังมีกลุ่มมวลชนหัวเสรีนิยมเป็นฐานเสียงที่สำคัญ

อี ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยเมื่อวานนี้ (9) เพื่อที่จะเดินหน้าสู่โหมดหาเสียงเลือกตั้งอย่างเต็มตัว

ผลสำรวจความคิดเห็นโดย Gallup Korea เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ยกให้ อี แจ-มยอง เป็นแคนดิเดตประธานาธิบดีอันดับ 1 ด้วยคะแนน 34% ตามมาด้วย คิม มุนซู (Kim Moon-soo) ผู้สมัครสายอนุรักษนิยมและอดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานวัย 73 ปี ที่ได้คะแนนอยู่ 9%

สำหรับพรรคพลังประชาชน (PPP) ของ ยุน จะประกาศชื่อผู้สมัครประธานาธิบดีในนามของพรรคภายหลังศึกเลือกตั้งไพรแมรีซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือน พ.ค.

ที่มา: รอยเตอร์