อิหร่านส่งเสียงเตือนไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคที่เป็นฐานที่ตั้งของกองกำลังสหรัฐฯ ว่าพวกเขาอาจเจอแก้แค้น หากเกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะลงมือโจมตีใดๆเล่นงานเตหะราน จากคำขู่ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งระหว่างให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
คำเตือนของเจ้าหน้าที่รายนี้ ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เป็นการเสริมท่าทีของอยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ที่สั่งให้กองทัพเตหะรานอยู่ในภาวะระแวดระวังขั้นสูงสุด
ขณะเดียวกันแม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องเจรจาโดยตรงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน แต่เจ้าหน้าที่รายนี้บอกว่าอิหร่านเปิดกว้างสำหรับเส้นทางการเจรจาผ่านคนกลางมากกว่า
"การเจรจาทางอ้อมมอบโอกาสสำหรับประเมินความจริงจังของวอชิงตันเกี่ยวกับการหาทางออกทางการเมืองกับอิหร่าน" เจ้าหน้าที่ระบุ พร้อมระบุว่าการเจรจาผ่านโอกาสจะเริ่มขึ้นทันที หากว่ามีสัญญาณแบบเดียวกันมาจากสหรัฐฯ แต่เจ้าหน้าที่รายนี้เตือนว่าบางทีหนทางอาจขรุขระบ้าง ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
นอกจากนี้แล้วอิหร่านยังได้เตือนอย่างเป็นทางการไปถึง อิรัก, คูเวต, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาตาร์, บาห์เรน และ ตุรกี ว่าการอนุญาตให้สหรัฐฯใช้น่านฟ้าหรือดินแดนของพวกเขา ระหว่างการโจมตีใดๆ อาจถูกปฏิบัติในฐานะเป็นการกระทำของศัตรู "การกระทำใดๆเช่นนี้ จะก่อผลสนองอย่างรุนแรงแก่พวกเขา" เจ้าหน้าที่อิหร่านระบุ
เมื่อวันพุธที่แล้ว สื่อมวลชนแห่งรัฐอิหร่านรายงานว่า คูเวต ให้คำรับประกันกับอิหร่าน ว่าจะไม่อนุญาตให้มีการรุกรานจากดินแดนของพวกเขา ส่วนประเทศอื่นๆที่ได้รับการติดต่อขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์ ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้หรือไม่ก็ยังไม่ตอบกลับมา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศตุรกี บอกว่พวกเขายังไม่ทราบเกี่ยวกับคำเตือนใดๆ
อีกด้านหนึ่ง พลเอกโมฮัมหมัด บาเกรี ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพอิหร่าน เปิดเผยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับท่าทีตอบสนองของผู้นำสูงสุด ต่อจดหมายของทรัมป์ ที่ส่งมาถึงเมื่อวันที่ 7 มีนาคม
"การเจรจาโดยตรงไม่อาจยอมรับได้ แต่การเจรจาทางอ้อมนั้นไม่มีปัญหา" คอเมเนอี ระบุ "คุณเป็นฝ่ายที่ไม่ซื่อสัตย์และไม่คู่ควรแก่ความไว้วางใจมากที่สุดในการเจรจาต่างๆในอดีตที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความไว้วางใจในพวกคุณ อย่างไรก็ตาม เราไม่ปิดประตู ถ้าคุณดำเนินการด้วยความจริงใจ การเจรจาสามารถเกิดขึ้นได้"
อ้างอิงข้อมูลจากพลเอกบาเกรี ทางคอเมเนอี ยังได้บอกกับทรัมป์ไปว่า อิหร่าน ไม่ได้เสาะหาอาวุธนิวเคลียร์ "เราจะตอบโต้ด้วยทุกความเข้มแข็งที่เรามีต่อภัยคุกคามใดๆ แต่เราไม่ได้ชอบสงครามและจะไม่เริ่มต้นสงคราม"
ทรัมป์ เตือนอิหร่านจะถูกทิ้งบอมบ์ หากว่าไม่ยอมเจรจาตกลงในข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ กระตุ้นให้ คอเมเนอี ตอบโต้ในวันจันทร์(7เม.ย.) ว่าเตหะรานจะแก้แค้นอย่างหนักหน่วงต่อการโจมตีใดๆ นอกจากนี้แล้วอิหร่านยังขู่เล็งเป้าเล่นงานผลประโยชน์ต่างๆของสหรัฐฯในภูมิภาค ในนั้นรวมถึงฐานทัพเรือยุทธศาสตร์ "ดิเอโก การ์เซีย" ในมหาสมุทรอินเดีย หากพวกเขาถูกอเมริกาโจมตี
เตหะรานยกระดับขู่บรรดาชาติเพื่อนบ้านหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านม โดยในเดือนตุลาคม ตามหลังอิหร่านโจมตีอิสราเอล อันนำมาซึ่งการโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล สำนักข่าววอลล์สตรีท เจอร์นัลด์ รายงานในตอนนั้นว่า เตหะราน ได้ส่งเสียงเตือนไปยังประเทศต่างๆ ในนั้นรวมถึงจอร์แดน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นฐานที่ตั้งของกองกำลังสหรัฐฯ
นับตั้งนั้นคำเตือนดังกล่าวได้นำมาซึ่งสถานการณ์ความซับซ้อนในภูมิภาค "เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯบางส่วนยอมรับว่าบรรดาพันธมิตรบางส่วนในภูมิภาค ได้แจ้งกับเพนตากอนว่าพวกเขาไม่ต้องการให้เครื่องบินรบของอิสราเอลบินผ่านดินแดนของพวกเขา หรือทหารสหรัฐฯเปิดปฏิบัติการโจมตีจากภายในดินแดนหรือเหนือน่านฟ้าของพวกเขา" ตามรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล
"บรรดาชาติอาหรับแจ้งกับกองกำลังสหรัฐฯ ว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติการป้องกันตนเองเท่านั้น" เจ้าหน้าที่ระบุ
(ที่มา:อัลมายาดีน/รอยเตอร์)