เกาหลีเหนือออกมาประณามข้อตกลงระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ที่จะร่วมผลิตขีปนาวุธชนิดยิงจากอากาศสู่อากาศ โดยชี้ว่าเป็นการกระพือความสุ่มเสี่ยงในภูมิภาค และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ กำลังยุยงส่งเสริมให้ญี่ปุ่นสร้างแสนยานุภาพทางทหารขึ้นมาอีกครั้ง
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ (2 เม.ย.) ว่า สหรัฐฯ กำลังอัปเกรดระบบบัญชาการทางทหารในญี่ปุ่น และทั้ง 2 ชาติได้ขยายความร่วมมือในการผลิตเครื่องกระสุนต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีเป้าหมายในทางการทหารและมุ่งร้ายต่อประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
ถ้อยแถลงดังกล่าวซึ่งมาจากเจ้าหน้าที่ระดับรองผู้อำนวยการคนหนึ่งในกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือยังมีการอ้างถึงระบบขีปนาวุธ AIM-120 ชนิดยิงจากอากาศสู่อากาศ ซึ่งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นตกลงว่าจะร่วมมือกันผลิตให้มากขึ้น ในระหว่างการเยือนโตเกียวของ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ (30 มี.ค.)
เจ้าหน้าที่โสมแดงผู้นี้กล่าวว่า การยกระดับประจำการขีปนาวุธซึ่งใช้ร่วมกับเครื่องบินที่มีการซ้อมรบในภูมิภาคเป็นประจำอยู่แล้วจะยิ่งกระพือความไร้เสถียรภาพในเอเชียแปซิฟิก
“แน่นอนว่า ศูนย์กลางยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางทหารของสหรัฐฯ ที่มุ่งเน้นครองความเป็นเจ้าโลกกำลังเปลี่ยนไป และนี่คือสัญญาณเตือนใหม่สำหรับประชาคมเอเชียแปซิฟิก รวมถึงกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ” เขากล่าว พร้อมชี้ว่า ข้อตกลงร่วมผลิตขีปนาวุธเกิดขึ้นในขณะที่ “สหรัฐฯ สมรู้ร่วมคิดและสนับสนุนให้ญี่ปุ่นกลายเป็นมหาอำนาจทางทหารมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่แล้ว”
เฮกเซธ และรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นได้เห็นพ้องที่จะเร่งเดินหน้าแผนการร่วมผลิตขีปนาวุธชนิดยิงจากอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา (beyond-visual-range air-to-air missiles) และจะพิจารณาร่วมกันผลิตขีปนาวุธชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศรุ่นอื่นๆ ด้วย
เฮกเซธ ยังย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของญี่ปุ่นในการช่วยป้องปราม “จีน” ซึ่งรวมถึงภัยคุกคามที่ปักกิ่งมีต่อไต้หวัน โดยชี้ว่าญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งใน “เสาหลัก” ความมั่นคงของภูมิภาคนี้
คำพูดสรรเสริญเยินยอของ เฮกเซธ นี้ตรงกันข้ามกับคำวิจารณ์ที่เจ้าตัวมีต่อพันธมิตรสหรัฐฯ ในยุโรป รวมไปถึงคำพูดของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มักจะบ่นเสมอว่า โตเกียวไม่ได้อุดหนุนกองทัพสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในแดนอาทิตย์อุทัยมากเท่าที่ควร
ที่มา: รอยเตอร์