ยูเครนจะไม่ได้สถานภาพสมาชิกนาโต แลกกับการสละแร่แรร์เอิร์ธแก่สหรัฐฯ ตามคำยืนยันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากก่อนหน้านี้ผู้นำอเมริกาเคยเตือนประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ต่อความพยายามใดๆที่จะเจรจาใหม่ในข้อตกลงหนึ่ง ซึ่งเปิดทางให้สหรัฐฯควบคุมอย่างครอบคลุมเหนือการสกัดแร่ในยูเครน
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวชนในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร(1เม.ย.) ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า เซเลนสกี ยืนยันว่าเขาจะลงนามในข้อตกลง หากเงื่อนไขในนั้นรวมถึงการสนับสนุนยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต
"ผมได้ยินเซเลนสกีพูดว่า ผมจะทำข้อตกลงก็ต่อเมื่อเราได้เข้าร่วมนาโต หรืออะไรบางอย่างที่เท่าเทียมกัน มันไม่เคยมีความสำคัญลำดับต้นๆในการหารือ" ทรัมป์กล่าว พร้อมเน้นย้ำด้วยว่า รัสเซีย คัดค้านยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต มาตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ชนะเลือกตั้งสมัยแรกในปี 2020 และชี้ว่า "บางที เรื่องนี้อาจเป็นเหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้สงครามเริ่มต้นขึ้น"
เซเลนสกี รวมข้อเสนอแร่หายากเข้ากับ "แผนแห่งชัยชนะ" ของเขา ที่เปิดตัวเมื่อปที่แล้ว ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทว่านับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง รัฐบาลทรัมป์เดินหน้าร่างข้อตกลงต่างๆนานา แต่ไม่สามารถปิดข้อตกลงใดๆได้เลย ในขณะที่ความปรองดองระหว่างเซเลนสกับทรัมป์ขาดเป็นวิ่นๆ
ข้อเสนอล่าสุดที่รั่วไหลถึงสื่อมวลชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกนักวิจารณ์ให้คำจำกัดความว่ามันคล้ายกับสนธิสัญญาอารักขาอาณานิคมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และในวันศุกร์(28มี28มี.ค.) ทรัมป์ เตือน เซเลนสกี อาจเจอ "ปัญหาใหญ่" หากว่าผู้นำยูเครนกลับคำในข้อตกลงแร่แรร์เอิร์ธ
อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์(30มี.ค.) ทรัมป์ ก็ตำหนิผู้นำรัสเซียเช่นกัน โดยเผยว่าเขารู้สึกโกรธมากๆ ที่ ปูติน ตั้งคำถามกับความน่าเชื่อถือของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในฐานะคู่เจรจาเพื่อยุติศึก และรู้สึกว่า มอสโกกำลังขัดขวางความพยายามของตัวเขาในการผลักดันการยุติสงครามในยูเครน
นับจากเข้ารับตำแหน่งสมัยสองในเดือนมกราคม ทรัมป์มีท่าทีประนีประนอมกับรัสเซียอย่างชัดเจน และพยายามเร่งรัดให้รัสเซียและยูเครนยุติสงครามที่ดำเนินมากว่า 3 ปี ทว่า คณะบริหารสหรัฐฯ ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้อยู่ดี แม้พยายามเจรจากับทั้งสองฝ่าย และการวิจารณ์ปูตินในวันอาทิตย์สะท้อนว่า ทรัมป์ไม่พอใจมากขึ้นที่ข้อตกลงหยุดยิงยังไปไม่ถึงไหน
ปูตินนั้นปฏิเสธแผนของอเมริกาและยูเครนในการหยุดยิงอย่างครอบคลุมเป็นเวลา 30 วัน และเมื่อวันศุกร์ (28) ประมุขวังเครมลินยังแนะว่า ยูเครนควรมีคณะบริหารชั่วคราวเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่และปลดเซเลนสกี้ที่หมดวาระการดำรงตำแหน่งไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ทั้งนี้ เซเลนสกีบอกว่า กฎหมายยูเครนระบุไม่ให้จัดการเลือกตั้งระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยที่เซเลนสกีได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกนับตั้งแต่ที่รัสเซียรุกรานยูเครน
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์/รอยเตอร์)