ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บ่งชี้ว่ายูเครนควรถูกกำหนดให้อยู่ภายใต้รูปแบบรัฐบาลชั่วคราว เพื่อเปิดทางสำหรับจัดการเลือกตั้งใหม่และลงนามในข้อตกลงสำคัญๆ ที่มีเป้าหมายบรรลุทางออกของความขัดแย้ง ตามรายงานของสื่อมวลชนแดนหมีขาวในตอนเช้าวันศุกร์(28มี.ค.)
ปูติน ยังระบุด้วยว่า เขาเชื่อว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ผู้ซึ่งปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัสเซีย มีความจริงใจต้องการยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมากว่า 3 ปี และบอกว่ารัสเซียกำลังมุ่งหน้าอย่างมั่นคง ในการบรรลุเป้าหมายต่างๆของความขัดแย้งนี้
ความเห็นของปูติน เกี่ยวกับรัฐบาลชั่วคราว ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเสียงคร่ำครวญมาช้านานของเขาที่ว่า พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนเป็นคู่เจรจาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ยังคงอยู่ในอำนาจ ทั้งที่หมดวาระการดำรงตำแหน่งไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024
"โดยหลักการแล้ว ควรเปิดตัวรัฐบาลชั่วคราวในยูเครน ภายใต้การดูแลของสหประชาชาติ, สหรัฐฯ, บรรดาชาติยุโรปและคู่หูของเรา" ปูตินกล่าว "สิ่งนี้ก็เพื่อจัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และมอบอำนาจสู่รัฐบาลที่มีอำนาจ ที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน และจากนั้นก็เริ่มเจรจากับพวกเขา เกี่ยวกับสนธิสัญญาสันติภาพ" ผู้นำรัสเซียพูดถึงความพยายามของทรัมป์ ในการเดินหน้าเจรจาโดยตรงกับรัสเซีย สวนทางกับอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่ปฏิเสธการติดต่อใดๆ และบ่งชี้ให้เห็นว่าผู้นำคนใหม่ของอเมริกาต้องการสันติภาพ
"ในความเห็นของผม ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งหมาดๆของสหรัฐฯ มีความจริงใจที่ต้องการเห็นความขัดแย้งยุติลง ในหลายๆเหตุผล" ปูตินกล่าว พร้อมบอกต่อว่ารัสเซีย "ก็ยากหาทางออกอย่างสันติต่อความขัดแย้งใดๆ ในนั้นรวมถึงความขัดแย้งนี้ด้วย ผ่านวิธีทางแห่งสันติ แต่ต้องไม่ใช่ภายใต้การชดใช้ของเรา"
ปูติน ยังกล่าวด้วยว่ารัสเซียพร้อมร่วมมือกับหลายๆประเทศ ในนั้นรวมถึงเกาหลีเหนือ เพื่อช่วยยุติสงครามในยูเครน ในขณะที่สื่อตะวันตกและยูเครนอ้างว่าเวลานี้มีทหารเกาหลีเหนือกว่า 11,000 นาย ถูกส่งเข้ามาเสริมกำลังพลของรัสเซีย ในแคว้นคูร์สก์ ท างตะวันตกของรัสเซีย แต่มอสโกไม่ยืนยันเรื่องนี้
(ที่มา:รอยเตอร์)