ทำเนียบขาวหัวร้อน หลังบรรณาธิการใหญ่ “ดิ แอตแลนติก” เผยแพร่ข้อความที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แชร์เแผนโจมตีกบฏฮูตีในกลุ่มแชตบนแอป “ซิกนัล” โดยนิตยสารฉบับนี้อธิบายว่า ที่ต้องทำแบบนี้เพราะเหล่าเจ้าหน้าที่อาวุโสที่รวมถึงทรัมป์ยังคงปฏิเสธว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการโกหก รวมทั้งโยนความผิดให้ตน แทนที่จะยอมรับว่า มีการละเมิดความมั่นคงแห่งชาติขั้นร้ายแรงและหาทางแก้ไข
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาว่า รายงานดังกล่าวเป็น “การล่าแม่มด” และโจมตีดิ แอตแลนติกเป็น “นิตยสารที่ล้มเหลว”
เจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการใหญ่ ดิ แอตแลนติก ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมกลุ่มแชตของสมาชิกอาวุโสในคณะรัฐมนตรีของสหรัฐฯ โดยไม่ตั้งใจ เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 มี.ค.) ว่า ตัดสินใจนำข้อความที่พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม เปิดเผยข้อมูลอ่อนไหว เช่น กำหนดเวลาโดยละเอียดก่อนที่อเมริกาจะโจมตีในเยเมนเพียง 2 ชั่วโมง ออกมาเผยแพร่ หลังจากถูกคณะบริหารของทรัมป์กล่าวหาว่า พูดไม่จริงเรื่องที่ว่า มีการเผยแพร่ข้อมูลลับในกลุ่มแชต
กระนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ยังพยายามยืนยันจุดยืนเดิม แต่มีเจ้าหน้าที่อาวุโสบางคนที่รวมถึงทรัมป์ เริ่มยอมรับว่า เกิดข้อผิดพลาดขึ้นจริง กล่าวคือเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า ใครต้องรับผิดชอบในการปล่อยให้นักข่าว ซึ่งหมายถึงโกลด์เบิร์ก ได้เห็นข้อความในแอปซิกนัล ผู้นำสหรัฐฯ ตอบว่า ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ ออกมารับผิดชอบเรื่องนี้แล้ว
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังคงให้การสนับสนุนเฮกเซธ ซึ่งเป็นผู้โพสต์รายละเอียดปฏิบัติการโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน โดยบอกว่า เฮกเซธทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พร้อมยืนยันว่า ไม่กังวลกับเรื่องข้อมูลรั่วครั้งนี้เลย แต่สำทับว่า ซิกนัลเป็นแอปที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และโกลด์เบิร์กเป็นคนที่น่ารังเกียจ
ทว่า โกลด์เบิร์กโต้กลับระหว่างให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า คณะบริหารของทรัมป์พยายามโยนความผิดให้ตน แทนที่จะยอมรับว่า มีการละเมิดความมั่นคงแห่งชาติขั้นร้ายแรงและแก้ไข
มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่อยู่ในกลุ่มแชตดังกล่าวด้วย ยอมรับระหว่างเยือนจาไมกาเมื่อวันพุธว่า เห็นได้ชัดว่า มีบางคนทำพลาดครั้งใหญ่ด้วยการดึงนักข่าวเข้ากลุ่มแชต
ทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติที่อยู่ในกลุ่มแชตเช่นเดียวกัน แถลงต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎรว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติจะทำการตรวจสอบเจาะลึกเพื่อระบุว่า โกลด์เบิร์กถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแชตอย่างไร
แกบบาร์ดยังยอมรับว่า เป็นความผิดพลาด แต่ยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่มีการแชร์ข้อมูลลับใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้ทรัมป์บอกว่า กรณีนี้ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่” ขณะที่วอลซ์ที่เป็นคนตั้งกลุ่มแชต ประกาศรับผิดชอบเรื่องราวทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวตั้งแต่เมื่อคืนวันอังคาร (25 มี.ค.)
ทว่า ทางฝั่งเดโมแครตเรียกร้องให้เฮกเซธลาออก โดยระบุว่า ข้อมูลที่รัฐมนตรีกลาโหมแชร์กับนักข่าวโดยไม่ตั้งใจอาจทำให้ชีวิตทหารอเมริกันตกอยู่ในความเสี่ยง หากข้อมูลนั้นตกไปอยู่ในมือศัตรูของอเมริกา
ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์นี้ โกลด์เบิร์กทำให้วอชิงตันช็อกด้วยการเผยแพร่บทความบอกเล่าว่า ตนเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มแชตของเจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะบริหารบนซิกนัล ซึ่งเป็นแอปรับส่งข้อความแบบเข้ารหัสได้อย่างไร
ตอนนั้นเขาบอกว่า มีข้อความบางส่วนที่ได้เห็นมาแต่ไม่ขอเปิดเผยเนื่องจากเป็นข้อมูลลับเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองและแผนการโจมตีของอเมริกาต่อกลุ่มกบฏฮูตี
อย่างไรก็ดี แม้ทำเนียบขาวออกมายอมรับอย่างรวดเร็วว่า มีการแชร์ข้อมูลจริง ทว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสบางคนที่รวมถึงเฮกเซธกลับพยายามดิสเครดิตโกลด์เบิร์ก
ในบทความชิ้นใหม่ที่เผยแพร่วันพุธ โกลด์เบิร์กและเชน แฮร์ริส นักเขียนร่วม ระบุว่า ตัดสินใจนำข้อความที่กล่าวถึงแผนการโจมตีเยเมนมาเปิดเผยเพื่อให้คนอเมริกันสรุปเรื่องนี้เอง เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลแบบที่เหล่าที่ปรึกษาของทรัมป์เปิดเผยในช่องทางการสื่อสารที่ไม่ปลอดภัยเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของสาธารณชนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากเจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารพยายามทำให้ดูเหมือนว่า ข้อความที่แชร์ดังกล่าวไม่ได้สลักสำคัญอะไร
ทว่า ในระหว่างการแถลงข่าววันพุธ แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ยังคงโจมตีโกลด์เบิร์กว่า เป็นพวกที่จงเกลียดจงชังทรัมป์ และเป็น “นักโฆษณาชวนเชื่อในวงการสื่อ” ที่พยายามปั่นข่าวปลอม และแก้เกี้ยวว่า ประเด็นสำคัญที่แท้จริงคือความสำเร็จท่วมท้นของปฏิบัติการโจมตีฮูตี
ทั้งนี้ ข้อความที่ดิ แอตแลนติกนำออกเผยแพร่รวมถึงรายละเอียดของเครื่องบินรบและอาวุธที่จะใช้ในปฏิบัติการดังกล่าว การประเมินความเสียหายภายหลังการโจมตี และปฏิบัติการของสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ในเยเมน และการโจมตีร่วมของอิสราเอลต่อฮูตี
ทางด้านเฮกเซธยังพยายามปกป้องตัวเองโดยบอกว่า ข้อความในแชตไม่ใช่แผนการทำสงคราม เนื่องจากไม่มีการระบุถึงหน่วยทหาร สถานที่ เส้นทาง วิธีการ ข้อมูลลับ และสำทับว่า งานของตนเองคือให้ข้อมูลล่าสุดตามเวลาจริง
ทว่า มิก มัลรอย อดีตรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมด้านตะวันออกกลางและอดีตเจ้าหน้าที่กองกำลังกึ่งทหารของซีไอเอ ท้วงว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูงและไม่ควรแชร์บนแอปรับ-ส่งข้อความเชิงพาณิชย์
(ที่มา: บีบีซี)