ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (26 มี.ค.) ว่า ตนยินดีที่จะปรับลดการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีน หากจะช่วยให้สามารถบรรลุข้อตกลงกับไบต์แดนซ์ (ByteDance) ว่าด้วยการขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ
ไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทแม่สัญชาติจีนของ TikTok มีเวลาจนถึงวันที่ 5 เม.ย. เพื่อที่จะแสวงหาผู้ซื้อที่ไม่ใช่ชาวจีน ไม่เช่นนั้นแอปแชร์วิดีโอสั้นที่มีผู้ใช้งาน 170 ล้านคนในอเมริกาก็จะถูกแบนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงตามกฎหมายซึ่งแต่เดิมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
กฎหมายฉบับนี้ถูกออกในยุคของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งเกรงว่าการที่ไบต์แดนซ์เป็นเจ้าของ TikTok อาจทำให้รัฐบาลจีนสามารถควบคุมเนื้อหาและเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ในสหรัฐฯ
ทรัมป์ ระบุว่าพร้อมจะเลื่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 5 เม.ย. ออกไปก่อน หากว่ายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขายกิจการ TikTok ได้
ผู้นำสหรัฐฯ ยอมรับต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญในการชี้ขาดว่าดีลนี้จะสำเร็จหรือไม่ และตน “อาจจะยอมลดภาษีให้พวกเขานิดหน่อย หรืออะไรทำนองนั้น เพื่อให้ข้อตกลงสำเร็จ”
ล่าสุดทาง TikTok ยังไม่ออกมาให้ความเห็นในประเด็นนี้
คำพูดของ ทรัมป์ สะท้อนให้เห็นว่า การบีบให้ TikTok ขายกิจการในสหรัฐฯ ยังคงเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล และสำคัญถึงขนาดที่ว่า ทรัมป์ เอามาตรการรีดภาษีมาใช้เป็นเครื่องมือต่อรองกับปักกิ่ง
เมื่อเดือน ก.พ. และต้นเดือนนี้ ทรัมป์ ได้ประกาศรีดภาษีสินค้านำเข้าจีนทุกประเภทในอัตรารวม 20%
ทั้งนี้ การจะกดดันจีนให้ยอมทำข้อตกลงสละกิจการซึ่งมีมูลค่านับหมื่นๆ ล้านดอลลาร์นั้นถือเป็นเรื่องยากยิ่ง และ ทรัมป์ เองก็เคยใช้มาตรการทางภาษีในการเจรจาต่อรองเรื่อง TikTok มาแล้ว
ตั้งแต่วันแรกที่สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์ ก็ขู่ทันทีว่าจะรีดภาษีสินค้าจีนสถานหนัก หากปักกิ่งไม่ยอมให้ไฟเขียวดีลขายกิจการ TikTok
รองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ กล่าวว่า เขาคาดหวังว่าการเจรจาเงื่อนไขทั่วไปของข้อตกลงว่าด้วยการเป็นเจ้าของ TikTok น่าจะสำเร็จภายในวันที่ 5 เม.ย.
รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว 2 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า วงเจรจาของนักลงทุนซึ่งจัดโดยทำเนียบขาวได้พูดถึงแผนการให้หุ้นส่วนที่ไม่ใช่จีนรายใหญ่ที่สุดในไบต์แดนซ์เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น และเข้าควบคุมปฏิบัติการของ TikTok ในสหรัฐฯ
อนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ แขวนอยู่บนเส้นด้าย นับตั้งแต่กฎหมายซึ่งบังคับให้ไบต์แดนซ์ต้องขายกิจการ TikTok ภายในวันที่ 19 ม.ค. ได้รับเสียงสนับสนุนล้นหลามจากสมาชิกสภาคองเกรส
TikTok เคย “จอดำ” ไปชั่วระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเดือน ม.ค. หลังจากที่ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสินให้คงคำสั่งแบนตามกฎหมาย ก่อนจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหลัง ทรัมป์ สาบานตนเพียงไม่กี่วัน
ทรัมป์ รีบเร่งออกคำสั่งบริหารเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายแบน TikTok เป็นวันที่ 5 เม.ย. และกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าอาจจะขยายเวลาต่อไปอีกเพื่อให้เวลากับตนเองในการใช้กลยุทธ์ต่อรอง
นักเคลื่อนไหวด้านเสรีภาพในการแสดงออกชี้ว่า การแบน TikTok ถือเป็นการจำกัดสิทธิของชาวอเมริกันในการเข้าถึงสื่อต่างชาติ และเข้าข่ายฝ่าฝืนบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมครั้งที่ 1 หรือ First Amendment ด้วย
ที่มา: รอยเตอร์