พวกผู้ขับขี่ดูเหมือนจะกระตือรือร้นแยกทางกับรถเทสลาของตนเอง หลังพบกระแสขายเปลี่ยนรถเทสลาไปซื้อรถยี่ห้ออื่นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้ ทั้งนี้ กระแส traded in ที่เพิ่มขึ้นนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางเหตุโจมตีรถยนต์เทสลาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เช่นเดียวกับการชุมนุมประท้วงของผู้คนต่อบทบาทของอีลอน มัสก์ ในรัฐบาลทรัมป์
ในเดือนมีนาคม รถยนต์เทสลารุ่นปี 2017 หรือใหม่กว่านั้นถูกนำมา traded in หรือใช้ซื้อรถยี่ห้ออื่นตามตัวแทนจำหน่ายทั้งหลาย ถือว่ามีสัดส่วนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามข้อมูลของเอ็ดมุนด์ จากข้อมูลของเอ็ดมุนด์ เว็บไซต์ซื้อขายรถของสหรัฐฯ พร้อมเน้นว่าการ traded in เหล่านั้น ไม่ได้ถูกใช้สำหรับซื้อรถเทสลาคันใหม่ ในขณะที่รถอีวีของเทสลา คิดเป็นสัดส่วน 1.4% ของรถที่ถูกนำมา traded in ทั้งหมดจนถึงวันที่ 15 มีนาคม เพิ่มขึ้น 0.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ข้อมูลของเอ็ดมุนด์ ยังบ่งชี้ว่าลูกค้าที่กำลังเล็งซื้อรถเทสลา มีจำนวนลดลงเช่นกัน โดยในเดือนกุมภาพันธ์ มีผู้สนใจซื้อรถใหม่เทสลาลดลง 1.8% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 ในขณะที่จำนวนนักชอปรถให้ความสนใจซื้อรถยนต์ใหม่เทสลา เคยแตะระดับสูงสุด 3.3% ในเดือนพฤศจิกายน 2024
"ความภักดีต่อแบรนด์เริ่มกลายเป็นคำถามตัวโต มันเกิดจากปัจจัยต่างๆ ในนั้นรวมถึงกรณีที่ อีลอน มัสก์ เกี่ยวพันในรัฐบาลอย่างเปิดเผยมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันการเสื่อมราคาและความอิ่มตัวในพื้นที่มหานครหลักๆ ทำให้พวกผู้เป็นเจ้าของบางส่วนเริ่มไม่รู้สึกเชื่อมต่อกับแบรนด์นี้อีกต่อไป" เจสซิกา คัลด์เวลลล์ หัวหน้าฝ่ายข้อมูลเชิงลึกของเอ็ดมุนด์บอกในถ้อยแถลงที่ส่งถึงซีบีเอส
เธอเน้นว่าความเชื่อมั่นต่อเทสลาที่ลดลงของผู้บริโภค อาจกลายเป็นโอกาสสำหรับบรรดาคู่แข่งรายอื่นๆ ที่จะแย่งส่วนแบ่งตลาด
ขณะเดียวกัน แดน อีฟส์ นักวิเคราะห์หุ้นเทคโนโลยี เตือนว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองของมัสก์ เสี่ยงคุกคามหุ้นของบริษัท และชี้ว่าบริษัทแห่งนี้กำลังอยู่ท่ามกลาง "ทอร์นาโดวิกฤตแบรนด์ที่มืดมิด" ที่มีเพียงตัวมัสก์เองเท่านั้นที่สามารถแก้ไขได้
อีฟส์ บอกว่านักลงทุนไม่ได้ขอให้ มัสก์ ปลีกตัวเองออกจากรัฐบาลทรัมป์หรือจากกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ที่เขาเป็นแกนนำ แต่อยากให้ "ดำเนินการในฐานะซีอีโอของเทสลาและผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลอย่างมีสมดุล ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้สำหรับเทสลา"
(ซีบีเอส)