อีลอน มัสก์ เข้าร่วมการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (21 มี.ค.) พร้อมเรียกร้องให้มีการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่เพนตากอนที่ “ปล่อยข่าวเท็จ” สร้างความเสียหายให้ตนเอง หลังสื่อนิวยอร์กไทม์สรายงานว่า มหาเศรษฐีเจ้าของเทสลาและ SpaceX จะได้รับฟัง “ข้อมูลลับสุดยอด” เกี่ยวกับแผนการทำสงครามต่อต้านจีน
มัสก์ ซึ่งเป็นคู่สัญญากลาโหมกับรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่หลายฉบับ ได้เข้าพบ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เป็นเวลา 80 นาทีที่ตึกเพนตากอน และไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีนายพลสหรัฐฯ คนใดเข้าร่วมการประชุมด้วยหรือไม่
ก่อนหน้านี้ นิวยอร์กไทม์สอ้างแหล่งข่าวซึ่งระบุว่า มัสก์ จะได้รับฟังสรุป "ข้อมูลลับ" เกี่ยวกับแผนการทำสงครามต่อต้านจีน ซึ่งตัวเขาเองรวมถึงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
มัสก์ ชี้ว่ารายงานดังกล่าวเป็น “การโฆษณาชวนเชื่อล้วนๆ” พร้อมเรียกร้องให้มีการเอาผิดกับคนที่ปล่อยข่าว
“ผมคาดหวังให้มีการเอาผิดกับคนในเพนตากอนที่ปล่อยข้อมูลใส่ร้ายผมต่อ NYT และเราจะหาคนพวกนี้ให้เจอ” มัสก์ โพสต์ข้อความบน X ก่อนที่จะเข้าพบ เฮกเซธ
โฆษกนิวยอร์กไทม์ส ระบุว่า การสอบสวนข้อมูลรั่วไหลครั้งนี้ “มีเจตนาข่มขู่ผู้สื่อข่าวกับแหล่งข่าวของพวกเขา และบั่นทอนศักยภาพในการทำงานของสื่อเสรีที่จะนำเอาข้อมูลสำคัญๆ ที่อาจถูกปกปิดออกมาเผยแพร่”
ด้านประธานาธิบดี ทรัมป์ แถลงที่ทำเนียบขาวภายหลังการประชุมดังกล่าวว่า ตนไม่คิดจะแชร์แผนสงครามสหรัฐฯ-จีนกับใครทั้งสิ้น พร้อมเอ่ยเป็นนัยๆ ว่า มัสก์ เองก็ถือเป็นบุคคลที่อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนในเรื่องนี้
“ผมไม่คิดจะบอกให้ใครรู้อยู่แล้ว และแน่นอนว่าคุณจะต้องไม่บอกมันกับนักธุรกิจคนหนึ่งที่ช่วยเหลือเรามากมาย” ทรัมป์ กล่าว
“อีลอน มีธุรกิจอยู่ในจีน และเขาก็... อาจจะ... สุ่มเสี่ยงกับเรื่องแบบนั้น”
เฮกเซธ ซึ่งยืนแถลงข่าวอยู่ข้างๆ ทรัมป์ ยืนยันว่า ตนได้พูดคุยแบบไม่เป็นทางการกับ มัสก์ แค่ในเรื่องของนวัตกรรมและประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น
“ไม่มีเรื่องแผนสงคราม ไม่มีแผนสงครามต่อต้านจีน และไม่มีแผนการลับใดๆ ทั้งสิ้น” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากการปูดข่าวของนิวยอร์กไทม์สก็ทำให้แผนการประชุมระหว่าง มัสก์ กับคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ ภายในห้องประชุมความมั่นคงสูงที่เพนตากอน หรือที่เรียกว่า ‘เดอะแทงค์’ (The Tank) ต้องถูกยกเลิกไป
ทั้งนี้ การเข้าถึงข้อมูลลับสุดยอดด้านการทหารของสหรัฐฯ จะถือเป็นการเพิ่มบทบาทและอิทธิพลให้ อีลอน มัสก์ ซึ่งปัจจุบันได้รับมอบหมายจาก ทรัมป์ ให้ดูแลเรื่องการตัดลดรายจ่ายของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังอาจก่อให้เกิดข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนสำหรับ มัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าเทสลาและ SpaceX และมีผลประโยชน์ทางธุรกิจอยู่ไม่น้อยในจีน
“ไม่มีเหตุอันสมควรในด้านความมั่นคงของชาติหรือเหตุผลอื่นใดที่จะเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ต่อคุณ มัสก์” เอลิซาเบธ วอร์เรน และ แทมมี ดักเวิร์ธ สองวุฒิสมาชิกเดโมแครต ระบุในจดหมายที่ส่งถึง เฮกเซธ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการชี้แจงว่าเพนตากอนแชร์ข้อมูลอะไรกับ มัสก์ บ้าง และด้วยเหตุผลใด
ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวเคยยืนยันว่า มัสก์ พร้อมจะ “ปลีกตัว” ออกไป หากมีความเสี่ยงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างธุรกิจของเขากับบทบาทหน้าที่ในฐานะผู้ดูแลการตัดลดรายจ่ายของภาครัฐ
โอกาสที่ มัสก์ จะแสวงหารายได้หลายพันล้านดอลลาร์เข้าสู่ธุรกิจของเขาภายใต้รัฐบาล ทรัมป์ ก็นับว่ามีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ SpaceX เนื่องจากโครงการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธโกลเดนโดม (Golden Dome) จำเป็นจะต้องมีการสั่งซื้อเซ็นเซอร์และดาวเทียมจำนวนมากเพื่อตรวจจับขีปนาวุธจากชาติศัตรู ซึ่งถือว่าเข้าทางของ SpaceX และ Starlink อย่างพอดิบพอดี
ที่มา : รอยเตอร์