xs
xsm
sm
md
lg

เสี่ยงสูง! “คิม จองอึน” ยืนกำกับทดสอบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน รับทูตปูติน “เซอร์เก ชอยกู” เยือนเปียงยาง ไล่เลี่ย “สหรัฐฯ” เปิดฉากยิงทดสอบมิสไซล์แม่นยำสูง PrSM เจนใหม่ของล็อกฮีด มาร์ตินพอดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน กำกับทดสอบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน แต่ไทม์ไลน์สุดระทึกบังเอิญไล่เลี่ยรับเลขาธิการสภาความมั่นคงรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู บินเข้ากรุงเปียงยาง สหรัฐฯ เปิดฉากซ้อมยิงทดสอบมิสไซล์แม่นยำสูง PrSM เจนใหม่ผลงานของบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ท่ามกลางความตึงเครียดยูเครน-รัสเซียเสี่ยงเกิด WW3

เอเอฟพีรายงานวันนี้ (21 มี.ค.) ว่า สำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือ KCNA รายงานวันศุกร์ (21) ว่า ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน เป็นผู้ควบคุมการทดสอบมิสไซล์ต่อต้านอากาศยานด้วยตัวเอง

KCNA รายงานว่า การทดสอบได้พิสูจน์ถึงระบบที่ตอบสนองต่อการสู้รบอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ อาห์น ชาน-อิล (Ahn Chan-il) อดีตเกาหลีเหนือแปรพักตร์ที่ผันตัวเป็นนักวิจัยของสถาบันโลกด้านการศึกษาเกาหลีเหนือ (World Institute for North Korea Studies) ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า การยิงทดสอบของเปียงยางล่าสุดดูเหมือนเป็นลักษณะการยิงทดสอบอาวุธเพื่อการส่งออกให้รัสเซียสำหรับสงครามยูเครน

ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานว่า ไม่เป็นที่ปรากฏว่าการทดสอบเกิดขึ้นเมื่อใดแต่ KCNA กล่าวแต่เพียงว่า ผู้นำเกาหลีเหนือร่วมสมาชิกคณะกรรมการกองทัพกลางประจำพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ เอเอฟพีชี้ว่า ข่าวการซ้อมยิงมิสไซล์ต่อต้านอากาศยานเกิดขึ้นมาพร้อมกับการเดินทางเข้ากรุงเปียงยางของตัวแทนปูติน เลขาธิการสภาความมั่นคงรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู

สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานวันศุกร์ (21) โดยอ้างอิงจาก RIA ว่า ชอยกูได้เดินทางมาถึงกรุงเปียงยางแล้ว และมีแผนที่จะพบกับผู้นำเกาหลีเหนือและเจ้าหน้าที่เปียงยางคนอื่นๆ หลังจากนี้

ความเคลื่อนไหวจากขั้วรัสเซีย-เกาหลีเหนือและเป็นที่จับตาของฝ่ายตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯ เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันพุธ (19) ว่า กองทัพสหรัฐฯ เดินหน้าทดสอบขีปนาวุธเจนใหม่ของตัวเองเพื่อแสดงความสามารถในสมรภูมิรบท่ามกลางความวิตกไปถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่อาจปะทุจากความขัดแย้งยูเครน

การทดสอบเกิดขึ้นที่ฐานทัพกองกำลังอวกาศแวนเดนเบิร์กสหรัฐฯ (Vandenberg Space Force Base) ที่รัฐแคลิฟอร์เนียในเวลาระหว่าง 10.30-11.00 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ ของวันพฤหัสบดี (20)

การทดสอบจะแสดงแสนยานุภาพมิสไซล์แบบภาคพื้นสู่ภาคพื้นราคา 3.5 ล้านดอลลาร์ยิงออกมาจากเครื่องยิงแบบเคลื่อนที่ห่างจากเป้าหมายไป 300 ไมล์

เกิดขึ้นหลังความสำเร็จของการทดสอบมิสไซล์แม่นยำสูง PrSM ที่เป็นผลงานการคิดค้นระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และบริษัทล็อก ฮีดมาร์ติน (Lockheed Martin) เป็นบริษัทด้านอากาศยาน อวกาศ และการป้องกันประเทศรายใหญ่ของโลกสัญชาติอเมริกา หลังเคยทดสอบก่อนหน้าเมื่อกุมภาพันธ์ที่รัฐนิวเม็กซิโกมาแล้ว

เดลีเมลของอังกฤษรายงานว่า การยิงทดสอบ PrSM ของเพนตากอนเกิดขึ้นกลางวิกฤตความตึงเครียดสงครามยูเครน โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เตือนสัปดาห์นี้ว่า อเมริกามีสิทธิอาจโดนลากเข้าสู่ WW3 หรือสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้หากว่าการรุกรานยูเครนของรัสเซียเกิดยกระดับ

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันชี้ ท่ามกลางภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ ทั้งในตะวันออกกลางและยูเครนส่งผลทำให้สหรัฐฯ มีกำหนดจะเปลี่ยนมาใช้มิสไซล์ตัวใหม่ทั้งหมดจากของเดิมที่ใช้คือมิสไซล์ ATACMS ที่สร้างชื่อมาตั้งแต่สมัยปฏิบัติการพายุทะเลทรายสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซัดดัมบุกคูเวต จากการที่มิสไซล์ PrSM เจนใหม่มีความแม่นยำสูงเข้าเป้าหมายที่ล็อกไว้บวกกับความสามารถการทำลายล้าง

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เคยกล่าวผ่านแถลงการณ์อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการประธานาธิบดีรัสเซียเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ปีที่แล้วพาดพิงถึง ขีปนาวุธเจนใหม่ของสหรัฐฯ คู่ปรับว่า ไม่น่ากลัวและยังมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามิสไซล์แดนหมีขาวในด้านเทคโนโลยี

พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวถึงมิสไซล์โอเรชนิค (Oreshnik) ที่ได้ทดลองใช้ในสมรภูมิรบดนิโปร (Dnipro) ของยูเครน ที่ถึงแม้สื่อรัสเซีย อินไซเดอร์ มีฐานในลัตเวีย เปิดเผยว่า ถึงแม้โอเรชนิคจะมีความเร็วเหนือเสียงถึง 10 มัคดูน่าเกรงขาวเมื่อดูจากคลิปการโจมตีดนิโปร แต่ในสภาพเงื่อนไขเป้าหมายที่ถูกทำลายกลับต่ำอย่างน่าใจหาย

อินไซเดอร์วิเคราะห์ว่า ฝ่ายรัสเซียน่าจะรู้ดีล่วงหน้าก่อนทดสอบที่ว่า มิสไซล์ยังมีประสิทธิภาพการทำลายล้างต่ำแต่ทว่าอาจต้องการใช้เพื่อส่งสัญญาณเตือนไปยังฝ่ายตะวันตกที่มิสไซล์โอเรชนิคนี่มีความสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์

โดยในการแถลงของประธานาธิบดีปูติน เขาเปิดเผยว่า ความเร็วของโอเรชนิคเทียบได้กับ 3 กิโลเมตรต่อ 1 วินาที และยังชี้ว่าโอเรชนิคนี้สร้างอุณหภูมิในการตกกระทบถึง 4,000 องศาเซลเซียสทีเดียว ใกล้เคียงอุณหภูมิที่พื้นผิวดวงอาทิตย์ที่สูงเฉลี่ยราว 5,500-6,000 องศาเซลเซียส


กำลังโหลดความคิดเห็น