รอยเตอร์/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - อังกฤษและเยอรมนีล่าสุดออกคำเตือนพลเรือนของตัวเองบินเข้าสหรัฐฯ ต้องระวังเสี่ยงสูงอาจถูกปฏิเสธห้ามเข้าประเทศหลังเจอมาหลายรายพิษทรัมป์ปรับนโยบายเข้าเมืองสหรัฐฯ ฝรั่งเศสฉุนขาดนักวิทยาศาสตร์บินเข้าเพื่อประชุมวิชาการรัฐเทกซัสแต่โชคร้ายเจอสุ่มตรวจพบวิจารณ์ทรัมป์เรื่องถึง FBI เนรเทศส่งกลับแดนน้ำหอม
รอยเตอร์รายงานวันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) ว่า เยอรมนีวันพุธ (19) ประกาศเตือนการเดินทางเข้าสู่พรมแดนสหรัฐฯ ของพลเมืองเบียร์ โดยย้ำว่าการได้รับสิทธิเข้าอเมริกาโดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าไม่ได้เป็นการรับประกันว่าจะเข้าสหรัฐฯ ได้หลังเมื่อไม่นานมานี้มีพลเมืองเยอรมนีไม่กี่คนโดนควบคุมตัวที่ด่าน
ขณะเดียวกัน อังกฤษได้ปรับปรุงคำเตือนการเดินทางเข้าสหรัฐฯ รับทรัมป์เช่นกัน
“คุณสมควรต้องทำตามทุกประการสำหรับการเข้าทุกประเภท วีซ่า และเงื่อนไขอื่นของการเข้า”
พร้อมเตือนอย่างหนักแน่นว่า “เจ้าหน้าที่ในสหรัฐฯ ได้กำหนดและบังคับใช้กฎการเดินทางเข้าอย่างเข้มงวด คุณอาจเสี่ยงโดนจับหรือถูกควบคุมตัวหากละเมิดกฎ”
รอยเตอร์ชี้ว่า เป็นการปรับปรุงคำเตือนการบินเข้าสหรัฐฯ ของพลเมืองอังกฤษที่ดูเหมือนว่า กระทรวงต่างประเทศอังกฤษจะเตือนการเสี่ยงโดนปฏิเสธการเข้าประเทศ หรือการที่รัฐบาลสหรัฐฯ บังคับใช้กฎการเข้าเมืองอย่างเข้มงวดครั้งแรกเมื่อต้นกุมภาพันธ์
ทั้งนี้ เมื่อต้นมีนาคมมีผู้หญิงชาวอังกฤษคนหนึ่งโดนเจ้าหน้าที่เข้าเมืองสหรัฐฯ คุมตัวไว้นานกว่า 10 วันที่พรมแดนเนื่องมาจากเหตุการละเมิดเงื่อนไขวีซ่าของเธอ โดยกระทรวงต่างประเทศอังกฤษยืนยันว่าได้ยื่นมือเข้าช่วยพลเมืองที่โชคร้ายรายนี้ และปัจจุบันได้เดินทางกลับมาอังกฤษแล้ว
รอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ต้นปี พบว่าเขาได้ลงนามจำนวนมากในคำสั่งทางบริหารในการใช้อำนาจประธานาธิบดีด้านการเข้าเมืองสหรัฐฯ แต่ทว่านอกเหนือจากการเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ของพรรคเดโมแครตคู่ปรับ พบว่าแต่พลเมืองชาติพันธมิตรจากยุโรปตะวันตกที่สามารถเดินทางเข้าอเมริกาได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ในสมัยทรัมป์ 2.0 กลับโดนปฏิเสธห้ามเข้าและส่งตัวกลับ
นอกจากนี้ ภายในประเทศพบว่า ทรัมป์ยังเล่นงานไปถึงบรรดาผู้เข้าสู่สหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมายและเป็นผู้พำนักถาวรในอเมริกาที่เรียกว่า “กรีนการ์ด” เป็นต้นว่า มาห์มูด คาลิล (Mahmoud Khalil) เกิดในซีเรีย อ้างอิงจาก บีบีซีของอังกฤษว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับมหาบัณฑิตและเป็นนักประท้วงเคลื่อนไหวเพื่อปาเลสไตน์ แต่ถือกรีนการ์ดอาศัยในสหรัฐฯ โดนจับ ICE จับในอพาร์ตเมนต์ของมหาวิทยาลัย กลายเป็นเรื่องเขย่าขวัญในอเมริกา
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า ไม่ต่างจากฝรั่งเศสที่ไม่พอใจอย่างหนักหลังนักวิทยาศาสตร์แดนน้ำหอมเดินทางเข้าสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. เพื่อไปประชุมทางวิชาการใกล้เมืองฮุสตัน รัฐเทกซัส แต่กลับโดนส่งตัวกลับประเทศแถมเรื่องถึง FBI สอบหลังโดนสุ่มตรวจคอมพิวเตอร์และมือถือพบข้อความวิจารณ์นโยบายปรับลดเงินสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์และวิชาการของทรัมป์
ส่งผลทำให้ Philippe Baptiste รัฐมนตรีการศึกษาขั้นสูงฝรั่งเศสและการวิจัยออกแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการนี้หลังพบว่าโทรศัพท์นักวิจัยมีข้อความสนทนากับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานและนักวิจัยแสดงความเห็นส่วนตัวประท้วงไม่เห็นด้วยต่อนโยบายทางวิทยาศาสตร์และวิชาการของทรัมป์
และเสริมว่า "เสรีของการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพการวิจัย และเสรีภาพทางวิชาการล้วนเป็นคุณค่าที่พวกเราจะยังคงยึดถืออย่างภาคภูมิ"
แหล่งข่าวเอเอฟพีเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่า เขาแสดงความเห็นเชิงเกลียดชังและ FBI ได้เปิดการสอบสวนแต่ทว่าไม่ได้มีการจับกุมหรือตั้งข้อหา แต่นักวิจัยแดนน้ำหอมที่โชคร้ายไม่สามารถเข้าประเทศเพื่อไปประชุมวิชาการได้เพราะเจ้าหน้าที่เนรเทศเขาส่งกลับฝรั่งเศส