ฮีโน่ มอเตอร์ส (Hino Motors) ผู้ผลิตรถบรรทุกในเครือโตโยต้า ออกมายอมรับผิดฐานแจ้งข้อมูลการปล่อยไอเสียเป็นเท็จต่อเนื่องนานหลายปีในสหรัฐฯ และยินยอมจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1,600 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
มาร์ก โกลด์สมิธ ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ในเมืองดีทรอยต์ รับคำยืนยันสารภาพผิดของค่ายรถบรรทุกจากญี่ปุ่น และตัดสินให้บริษัทชดใช้ค่าปรับเป็นเงิน 521.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงทำทัณฑ์บน 5 ปี ซึ่งระหว่างนั้น ฮีโน่ มอเตอร์ส จะไม่สามารถนำเข้าเครื่องยนต์ดีเซลที่ผลิตเองมาจำหน่ายในสหรัฐฯ ได้
ทั้งนี้ ศาลยังได้มีคำสั่งริบทรัพย์ของ ฮีโน่ มอเตอร์ส อีกเป็นจำนวน 1,087 ล้านดอลลาร์สหรัฐด้วย
“บริษัทต่างๆ ที่จงใจหลบเลี่ยงกฎหมายสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ รวมถึงด้วยการปลอมแปลงข้อมูล สมควรได้รับการลงโทษ และจะต้องรับผิดทางอาญา” เจฟฟรีย์ ฮอลล์ รักษาการผู้บังคับใช้กฎหมายจากสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ (USEPA) ระบุ
ล่าสุด โตโยต้า ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ ฮีโน่ มอเตอร์ส ยังไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลสหรัฐฯ
ย้อนไปเมื่อเดือน ม.ค. ฮีโน่ มอเตอร์ส ยอมรับสารภาพว่าเครื่องยนต์ของรถกว่า 150,000 คันที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ระหว่างช่วงปี 2010-2022 มีการปล่อยไอเสียเกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
คณะทำงานที่บริษัทแต่งตั้งขึ้นยังแถลงในปี 2022 ว่า ฮีโน่ มอเตอร์ส มีการปลอมแปลงข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องยนต์บางรุ่นย้อนหลังไปจนถึงปี 2003 เป็นอย่างน้อย
ภายใต้ข้อตกลงสารภาพผิด ฮีโน่ มอเตอร์ส จะต้องทำโครงการบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมูลค่า 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทำการเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือและหัวรถจักรเพื่อชดเชยการปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน นอกจากนี้ยังต้องทำโครงการเรียกคืนรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จำหน่ายในช่วงปี 2017-2019 เพื่อแก้ไขเครื่องยนต์รวมมูลค่าอีก 144.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจาก USEPA
ฮีโน่ มอเตอร์ส ยังรับสารภาพด้วยว่า ในช่วงปี 2010-2019 บริษัทได้ใช้ “ช่องทางลัดที่ผิดกฎหมาย” ยื่นเรื่องขอใบอนุญาตรับรองเครื่องยนต์ และดัดแปลงแก้ไขผลทดสอบการปล่อยไอเสีย นอกจากนี้ยังดำเนินการทดสอบอย่างไม่ถูกต้อง และปลอมแปลงข้อมูลบางอย่างขึ้นมาโดยที่ไม่ได้มีการทดสอบจริง
ซาโตชิ โอกิโสะ ประธาน ฮีโน่ มอเตอร์ส แถลงยืนยันเมื่อเดือน ม.ค. ว่า บริษัทได้ปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กรภายใน การกำกับดูแล และแนวทางปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย
ทางบริษัทยังเผยเมื่อเดือน ม.ค. เช่นกันว่าสูญเสียรายได้ไปถึง 230,000 ล้านเยน หรือประมาณ 1,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐในผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว โดยเป็นค่าใช้จ่ายจากคดีความต่างๆ
ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีผู้ผลิตรถยนต์หลายเจ้าที่ออกมายอมรับว่าขายรถเครื่องยนต์เครื่องดีเซลที่ปล่อยไอเสียเกินค่ามาตรฐาน ตัวอย่างเช่น โฟล์คสวาเกนซึ่งต้องค่าปรับและเงินชดเชยต่างๆ ไปกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ หลังออกมารับสารภาพในปี 2015 ว่ามีการติดตั้งอุปกรณ์โกงค่าไอเสีย (defeat devices) และระบบซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนในรถยนต์เกือบ 11 ล้านคันทั่วโลก
ที่มา : รอยเตอร์