xs
xsm
sm
md
lg

จับตาทรัมป์-ปูตินโทรศัพท์หารือยุติสงครามยูเครน เครมลินแย้ม 2 ผู้นำถก‘ปรับสัมพันธ์รัสเซีย-US’ด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพเขียนชื่อ Peace to the world (สันติภาพสู่โลก) ฝีมือสร้างสรรค์ของ อเล็กเซย์ เซร์กิเอนโค อาร์ติสต์ชาวรัสเซีย ซึ่งนำเอาภาพใบหน้าของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มาผสมผสานกัน ถูกนำมาแสดงที่หอศิลป์แห่งหนึ่งในนครเซนต์ปิเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันศุกร์ (14 มี.ค.) ที่ผ่านมา
ทรัมป์-ปูตินหารือกันทางโทรศัพท์ในวันอังคาร (18 มี.ค.) โดยประมุขทำเนียบขาวระบุว่าต้องการโน้มน้าวผู้นำรัสเซียให้ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงในยูเครนและมุ่งหน้าสู่การยุติสงครามอย่างถาวร ขณะที่ทำเนียบเครมลินเผย สองผู้นำจะคุยกันนาน 2 ชั่วโมงเรื่องยูเครนและการปรับความสัมพันธ์ระดับปกติระหว่างอเมริกา-รัสเซีย

ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินแถลงที่กรุงมอสโกในวันอังคาร (18) ว่า การหารือระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเกิดขึ้นระหว่างเวลา 13.00-15.00 น.ตามเวลามาตรฐานเมืองกรีนิช (ตรงกับ 20.00 – 22.00 น. เวลาเมืองไทย) ซึ่งตรงกันกับการแถลงของทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ขณะที่เปสคอฟบอกว่าผู้นำทั้งสองจะพูดคุยกันในหลากหลายหัวข้อตั้งแต่การปรับความสัมพันธ์ระดับปกติระหว่างสองประเทศจนถึงประเด็นยูเครน

ด้านทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์ (17) ว่า สามารถตกลงกันได้กับรัสเซียในองค์ประกอบต่างๆ ในข้อตกลงขั้นสุดท้าย แต่ยังมีที่ต้องหารืออีกหลายประเด็นเช่นเดียวกัน ซึ่งเขาคาดหวังอย่างมากกับการหารือกับผู้นำรัสเซีย

ทางฝ่ายยูเครนที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ออกปากว่า ทำงานด้วยยากกว่ารัสเซียนั้น ได้ประกาศยอมรับข้อเสนอหยุดยิงนาน 30 วันของอเมริกาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ทางฟ็อกซ์ นิวส์ เรดิโอเมื่อวันจันทร์ว่า ยูเครนตกลงหยุดยิงและระงับการดำเนินการทั้งหมด ทำให้สามารถหารือเกี่ยวกับวิธีการยุติความขัดแย้งอย่างถาวร และตอนนี้อเมริกากำลังจะได้รับการตอบรับแบบเดียวกันจากรัสเซีย ซึ่งคำตอบจะออกมาภายหลังจากที่ทรัมป์หารือกับปูติน

ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า การหารือแผนสันติภาพระยะยาวจะครอบคลุมถึงการที่เคียฟยินยอมยกดินแดนบางส่วนและการควบคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซียให้รัสเซีย

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ยังคงยืนกรานว่า อธิปไตยของยูเครนไม่ใช่สิ่งที่นำมาต่อรองได้ พร้อมยื่นคำขาดให้รัสเซียคืนดินแดนที่ยึดไปที่รวมถึงคาบสมุทรไครเมียที่มอสโกเข้าผนวกในปี 2014 และสี่แคว้นทางตะวันออกของยูเครนที่รัสเซียเข้ายึดพื้นที่เอาไว้บางส่วนนับจากยกทัพบุกเมื่อต้นปี 2022

สำหรับปูตินนั้นประกาศมานานแล้วว่า การรุกรานยูเครนมีสาเหตุจากการที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) พยายามขยายอิทธิพลมาทางตะวันออก จนกระทั่งประชิดติดแดนหมีขาว ซึ่งเป็นการคุกคามความมั่นคงของรัสเซีย และละเมิดคำมั่นสัญญาที่ผู้นำฝ่ายตะวันตกเคยให้ไว้กับผู้นำโซเวียตในตอนท้ายๆ ก่อนที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย

ประมุขเครมลินยังเรียกร้องให้มีการระบุอย่างชัดเจนว่านาโตจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และประเทศนี้จะต้องดำเนินนโยบายเป็นกลาง และย้ำว่า รัสเซียต้องควบคุมดินแดนที่ยึดครองได้ในยูเครน ตะวันตกควรผ่อนคลายมาตรการแซงก์ชันรัสเซีย และเคียฟต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ปัจจุบัน เซเลนสกี้ที่ได้รับเลือกตั้งตั้งแต่ปี 2019 หมดวาระในการเป็นประมุขยูเครนไปแล้ว แต่ยังคงปกครองยูเครนภายใต้กฎอัยการศึกที่บังคับใช้เนื่องจากภาวะสงคราม

สัปดาห์ที่แล้ว ปูตินระบุว่า เห็นด้วยกับแนวคิดการหยุดยิง แต่ยังมีคำถามสำคัญๆเกี่ยวกับวิธีดำเนินการ และบอกว่า ต้องการคุยกับทรัมป์


ทรัมป์ที่ประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะยุติสงครามในยูเครนภายใน 24 ชั่วโมงหลังเข้ารับตำแหน่ง กำลังเผชิญคู่เจรจาเขี้ยวลากดินอย่างปูติน ที่เซเลนสกี้กล่าวหาว่า ชอบละเมิดข้อตกลงและต้องการยื้อสงคราม

มาเรีย สเนโกวายา นักวิชาการอาวุโสของศูนย์เพื่อการศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยด้านนโยบายที่ตั้งอยู่ในวอชิงตัน ชี้ว่า ปูตินอาจพยายามสร้างปัญหาในการเจรจากับทรัมป์ด้วยการทำทีว่า เห็นด้วยกับบางประเด็น แต่เรียกร้องให้ยูเครนยอมประนีประนอมมากขึ้น โดยสถานการณ์เลวร้ายที่สุดสำหรับยูเครนและฝ่ายตะวันตกที่สนับสนุนเคียฟก็คือ ปูตินสามารถกล่อมให้ทรัมป์เคลิบเคลิ้มกับข้อตกลงที่มีอนาคตสวยหรูบางอย่างกับรัสเซีย

นับจากเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ขยับความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้น แต่โดดเดี่ยวพันธมิตรด้วยมาตรการภาษีศุลกากร รวมทั้งขู่เข้าผนวกแคนาดาและยึดกรีนแลนด์

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทรัมป์ญาติดีกับปูติน เมื่อไม่นานมานี้คณะบริหารสหรัฐฯ กลับส่งสัญญาณว่า พร้อมกดดันเครมลินให้ยุติการสู้รบ

กระนั้น กองกำลังรัสเซียยังคงเดินหน้าบุกยูเครน โดยล่าสุดกระทรวงกลาโหมแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ทหารรัสเซียเข้ายึดหมู่บ้านสเตโพฟ ในแคว้นซาโปริซเซีย ทางภาคใต้ของยูเครน ถึงแม้กองทัพยูเครนแถลงช่วงค่ำวันเดียวกันว่า กองกำลังยูเครนได้สกัดการโจมตีใกล้สเตโพฟและหมู่บ้านล็อบโคฟที่อยู่ใกล้กัน รวมทั้งยังมีการสู้รบ 3 จุดในบริเวณนั้น

ทว่า ดีปสเตท บล็อกที่ติดตามความเคลื่อนไหวในแนวรบและได้รับความนิยมในยูเครนระบุว่า พบกองกำลังรัสเซียใกล้สเตโพฟ และแม้ยูเครนพยายามสกัด แต่ทหารรัสเซียสามารถรุกคืบเข้าใกล้ถนนหลักสายหนึ่ง

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น