ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันจันทร์ (17 มี.ค.) หลังสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าโจมตีกบฏฮูตีในเยเมน จนกว่าพวกติดอาวุธพันธมิตรของอิหร่านกลุ่มนี้จะหยุดเล่นงานการเดินเรือ ส่วนวอลล์สตีทปิดบวก จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุนและทองคำปรับขึ้น ยังคงกังวลเกี่ยวกับสงครามรีดภาษี
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ ปิดที่ 67.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ ปิดที่ 71.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (17 มี.ค.) เผยว่าเขาจะลงโทษอิหร่าน ต่อกรณีที่พวกกบฏฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะรานในเยเมน ทำการโจมตีเรือสินค้าต่างๆ ในขณะที่รัฐบาลของเขายกระดับปฏิบัติการทางทหารของอเมริกาครั้งใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง นับตั้งแต่ ทรัมป์ กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ความเคลื่อนไหวที่กระพือความกังวลเกี่ยวกับอุปทานพลังงาน
ขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจจีนก็สนับสนุนราคาน้ำมันเช่นกัน หลังยอดค้าปลีกเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ สัญญาณขานรับมาตรการต่างๆ ของพวกผู้กำหนดนโยบาย ที่พยายามกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันจันทร์ (17 มี.ค.) นักลงทุนช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไร หลังจากก่อนหน้านี้แนสแดคและเอสแอนด์พี 500 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ รวมถึงประเมินข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด เพื่อไตร่ตรองผลกระทบของนโยบายต่างๆของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 353.44 จุด (0.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 41,841.63 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 36.18 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,675.12 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 54.58 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,808.66 จุด
ยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย สะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ จากมาตรการรีดภาษี และการปลดลูกจ้างรัฐบาลกลางขนานใหญ่
อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีทปิดบวกจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน หลังจากก่อนหน้านี้แนสแดคและเอสแอนด์พี 500 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ แม้รายงานอีกฉบับจะเผยให้เห็นว่ากิจกรรมภาคโรงงานในนิวยอร์ก ในเดือนมกราคม ดำดิ่งสุดในรอบเกือบ 2 ปี
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (17 มี.ค.) ขยับขึ้นเล็กน้อย นักลงทุนยังคงหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการรีดภาษี โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 3,001.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)