กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) ขู่ตอบโต้หนักหน่วงต่อการโจมตีใดๆ และรัฐมนตรีต่างประเทศเตหะรานเรียกร้องอเมริกาหยุดเข่นฆ่าประชาชน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกคำสั่งถล่มทางอากาศเป็นชุดๆ เล่นงานกบฏฮูตีในเยเมน ปลิดชีพผู้คนกว่าครึ่งร้อย และเตือนเตหะรานให้หยุดสนับสนุนพวกติดอาวุธกลุ่มนี้
เมื่อวันเสาร์ (15 มี.ค.) ทรัมป์ เผยว่าสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการทางทหารอย่างหนักหน่วงและรุนแรง เพื่อยุติภัยคุกคามของพวกฮูตีต่อการเดินเรือในทะเลแดง และเตือนว่าอิหร่านต้องหยุดให้การสนับสนุนพวกกบฏกลุ่มนี้ในทันที ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮูตีเปิดเผยในช่วงต้นว่าปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 ราย ก่อนปรับเพิ่มตัวเลขในเวลาต่อมา เป็นเสียชีวิต 53 ราย และบาดเจ็บ 98 คน จำนวนมากเป็นพลเรือน
นายพลฮัสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ประณามคำขู่ของทรัมป์ ระหว่างปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) และประกาศกร้าวว่า "อิหร่านจะไม่ทำสงคราม แต่ถ้าใครก็ตามข่มขู่คุกคาม เราจะตอบโต้อย่างทัดเทียม หนักแน่นและไปจนถึงจุดจบ"
ผู้บัญชาการรายนี้เรียกพวกฮูตี ว่าเป็นตัวแทนของชาวเยเมน และยืนยันว่าทางกลุ่มทำการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์และปฏิบัติการต่างๆ อย่างเป็นอิสระ
ในเดือนมกราคม 2020 ระหว่างที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งสมัยแรก สหรัฐฯ ได้ลงมือสังหาร นายพลกอเซ็ม สุไลมานีผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ (Quds) ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการในต่างแดนของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ในปฏิบัติการโดรนโจมตีในกรุงแบกแดด
ไม่กี่วันต่อมา อิหร่านแก้แค้นด้วยการยิงขีปนาวุธเข้าใส่ฐานทัพต่างๆ ในอิรัก ที่เป็นค่ายของกองกำลังสหรัฐฯ และทหารพันธมิตรอื่นๆ ไม่มีบุคลากรอเมริกาเสียชีวิตในเหตุโจมตีดังกล่าว แต่วอชิงตันบอกว่ามีกำลังพลได้รับบาดเจ็บทางสมองหลายสิบคน
ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เผยแพร่ถ้อยแถลงประณามอย่างหนักหน่วงต่อการโจมตีทางอากาศอันโหดร้ายป่าเถื่อนโดยสหรัฐฯ และชี้ว่ามันเป็นการละเมิดโดยสิ้นเชิงต่อหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ
อับบาส อาราชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวหลังจากนั้นว่า วอชิงตันไม่มีอำนาจใดๆ ที่จะมากำหนดนโยบายต่างประเทศของอิหร่าน "รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีอำนาจ ไม่ใช่ธุระ ที่จะมากำหนดนโยบายต่างประเทศของอิหร่าน" รัฐมนตรีรายนี้เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พร้อมเรียกร้องให้อเมริกาหยุด "เข่นฆ่าประชาชนชาวเยเมน"
กบฏฮูตี ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมนมานานกว่า 1 ทศวรรษ เป็นส่วนหนึ่งของ "อักษะฝ่ายต่อต้าน" กลุ่มฝักใฝ่อิหร่าน ที่ต่อต้านอิสราเอลและสหรัฐฯ
พวกเขาใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล และเรือสินค้าต่างๆ ที่แล่นผ่านเยเมน ในทะเลแดงและอ่าวเอเดน ระหว่างสงครามกาซา อ้างว่าเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์
ยุทธการดังกล่าวก่อความเสียหายแก่เส้นทางการเดินเรือสำคัญ ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าคิดเป็นสัดส่วน 12% ของโลก บีบให้บริษัทมากมายต้องอ้อมไปแถวๆ แหลมทางใต้ของแอฟริกา ซึ่งทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ ที่เล่นงานพวกกบฏฮูตีในวันเสาร์ (15 มี.ค.) ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ทรัมป์ กลับสู่ทำเนียบขาวในเดือนมกราคม
เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ในวันเสาร์ (15 มี.ค.) ว่าทุกฝ่ายควรอดทนอดกลั้นจากการใช้กำลังในเยมน และเข้าสู่การพูดคุยเจรจาทางการเมือง
มอสโก เผยว่า รูบิโอ ได้แจ้งกับ ลาฟรอฟ เกี่ยวกับการตัดสินใจของวอชิงตันในการโจมตีพวกกบฏฮูตีในเยเมน ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากทั้ง 2 ชาติ ทำการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต นับตั้งแต่ ทรัมป์ กลับเข้ารับตำแหน่ง
เมื่อปีที่แล้ว รัสเซียเคยประณามสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรต่อปฏิบัติการโจมตีเยเมน และได้พูดคุยกับพวกฮูตี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ชาติที่เป็นพันธมิตรกับมอสโก
(ที่มา : เอเอฟพี)